ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า กล่าวว่าสหรัฐจะยังคงรักษาอำนาจทางการทหารที่เข้มแข็งที่สุดในโลกต่อไป และจะมุ่งเน้นที่การรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น
โดยผู้นำสหรัฐกล่าวที่มหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศ ในกรุงวอชิงตันว่า อเมริกาจำเป็นต้องพัฒนาความสามารถในการส่งความช่วยเหลือ และคำปรึกษาไปยังต่างประเทศเพื่อป้องกันสงคราม
ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า กล่าวต่อบรรดาทหารเนื่องในโอกาสเปิดอาคารใหม่ของมหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศ ว่าสหรัฐจะรักษาอำนาจทางการทหารต่อไป สหรัฐจะมีกำลังทหารที่เข้มแข็งที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา และสหรัฐจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาความได้เปรียบทางเทคโนโลยี และการลงทุนในประสิทธิภาพที่จำเป็นสำหรับการปกป้องผลประโยชน์ และเพื่อปราบปรามและต่อต้านศัตรูของสหรัฐ
ในขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐกล่าวด้วยว่า กองทัพอเมริกันจะต้องเตรียมตัวรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ เช่น กลุ่มแข็งข้อต่อต้านที่ทหารอเมริกันกำลังเผชิญอยู่ในอิรักและอัฟกานิสถาน ประธานาธิบดีสหรัฐบอกว่าขณะนี้ตนกำลังกระทำตามโครงการของรัฐบาลสหรัฐชุดเก่า เพื่อขยายกำลังของกองทัพบก และหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐ และเพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีฝึกฝนทหารอเมริกัน
ประธานาธิบดีโอบาม่ากล่าวว่า ทหารจะต้องมีความเข้าใจในภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่าง จะต้องศึกษาฝ่ายตรงข้ามและพัฒนายุทธวิธีใหม่ๆ ซึ่งการเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้ในมหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศ และนั่นคือสิ่งที่ต้องทำเพื่อปกป้องอเมริกาให้ปลอดภัย ผู้นำสหรัฐบอกด้วยว่า ปัจจุบันทหารต้องเผชิญกับภารกิจที่ซับซ้อน เพราะนอกจากจะต้องต่อสู้กับบรรดากลุ่มแข็งข้อต่อต้านต่างๆ แล้ว ยังต้องพยายามชนะใจประชาชนที่อยู่ในพื้นที่สู้รบให้ได้ด้วย
ประธานาธิบดีโอบาม่าบอกว่า ความมั่นคงปลอดภัยในปัจจุบันต้องอาศัยการดำเนินงานทางการฑูตที่เข้มแข็งประกอบไปด้วยกัน ซึ่งรวมถึงความสามารถในการเรียกกำลังสนับสนุนจากประชาชน เพื่อช่วยรัฐบาลพัฒนาการทำงาน สนับสนุนหลักกฎหมายและกระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจรวมถึงการทำงานด้านอื่นๆ ในสิ่งที่ผู้นำสหรัฐเรียกว่า "การมุ่งโจมตีที่สาเหตุของการเกิดสงครามทั่วโลก" ประธานาธิบดีโอบาม่าระบุว่าที่มหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศนั้น จนท.รัฐบาลสหรัฐจะศึกษาร่วมกับทหารอเมริกันและทหารต่างชาติ ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงจุดที่ว่า สหรัฐไม่สามารถรับมือกับปัญหาท้าทายด้านความมั่นคงของโลกได้แต่เพียงผู้เดียว
ผู้นำสหรัฐชี้ว่า ไม่มีวิธีที่ตายตัวในการรับมือกับปัญหา ด้านความมั่นคงปลอดภัยที่ทหารอเมริกันเผชิญในต่างประเทศ และประเทศต่างๆ ก็ไม่สามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆได้ หากขาดความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งของอเมริกา รัฐบาลสหรัฐจึงจำเป็นต้องเข้าร่วมอย่างสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกับประเทศอื่นๆ รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ทางทหารกับต่างชาติ เพื่อร่วมต่อสู้กับศัตรูกลุ่มเดียวกัน
แถลงการณ์ของผู้นำสหรัฐ ที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเตรียมรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ ครั้งนี้ สอดคล้องกับมุมมองของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ โรเบิร์ต เกตส์ รวมทั้ง จนท.และผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ และอาจมีผลต่องบประมาณด้านการทหารของสหรัฐได้ เพราะก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่ารัฐมนตรีเกตส์และประธานาธิบดีโอบาม่าอาจตัดสินใจลด หรือเลื่อน หรือยกเลิก โครงการทางทหารที่มีค่าใช้จ่ายสูงบางโครงการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการต่อต้านภัยคุกคามในรูปแบบเดิม เช่น โครงการซื้อเครื่องบินรบของกองทัพอากาศ คาดว่าการตัดสินใจในเรื่องนี้จะมีขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า
