ในการศึกษาที่ศูนย์การแพทย์มาโย คลินิก นักวิจัยพบวิธีการตรวจสอบโรคมะเร็งทรวงอกแบบใหม่ ที่พิสูจน์แล้วว่า สามารถตรวจพบเนื้อร้ายได้ดีกว่าการทำเม็มโมแกรมถึงสามเท่า
ปัจจุบันการทำเม็มโมแกรม ยังคงเป็นเครื่องมือมาตรฐานสำหรับการตรวจหาโรคมะเร็งทรวงอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ถ้าหากตรวจพบเนื้องอกตั้งแต่ยังมีขนาดเล็กอยู่ จะสามารถรักษาได้ถึง 90%
แพทย์หญิงลิซ่า แคเรย์ ผู้อำนวยการการแพทย์ ที่ศูนย์มะเร็งทรวงอกของมหาวิทยาลัยนอร์ธ แคโรไลน่า กล่าวว่า ยิ่งเนื้องอกมีขนาดเล็กมากเท่าไหร่ ก็จะสามารถยับยั้งไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้มากเท่านั้น
สำหรับผู้หญิงที่มีเนื้อเยื่อที่หน้าอกหนาแน่น การทำเม็มโมแกรมมักจะไม่สามารถตรวจพบเนื้องอกที่มีขนาดเล็กผ่านเนื้อเยื่อที่หนาแน่นนั้นได้ นักวิจัยที่ศูนย์การแพทย์มาโย คลินิก เปรียบเทียบระหว่างการทำเม็มโมแกรม กับการตรวจวิธีใหม่ที่ชื่อว่า Molecular Breast Imaging ซึ่งทำโดยการฉีดรังสีเข้าไปในกระแสเลือด สารนี้จะเกาะยึดอยู่กับเซลมะเร็ง ดังนั้นจึงช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นเนื้องอกขนาดเล็กๆ ซึ่งการทำเม็มโมแกรมมักจะตรวจพลาดอยู่บ่อยๆ
แพทย์หญิงเดบรา โรดเดส ซึ่งเคยร่วมทีมวิจัยที่ศูนย์การแพทย์มาโย คลินิก กล่าวว่าเซลมะเร็ง จะดูดซับสารที่ใช้ในการตรวจหามะเร็งนี้ ได้ดีกว่าเซลเนื้อเยื่อปกติที่หน้าอก และนั่นก็จะทำให้มีแสงสว่างตรงเนื้องอกปรากฏออกมาในภาพ
มีผู้หญิงที่มีเนื้อเยื่อหน้าอกหนาแน่น เข้าร่วมการศึกษาวิจัยนี้ 940 คน แพทย์พบว่า การตรวจหามะเร็งด้วยวิธี Molecular Imaging สามารถตรวจพบเนื้องอกได้ดีกว่าการทำเม็มโม แกรม ถึงสามเท่า
ปัจจุบันเครื่องตรวจมะเร็ง Molecular Imaging ยังไม่มีขาย นักวิจัยกำลังพยายามลดปริมาณรังสี ในการตรวจด้วยวิธีนี้ และถ้าสามารถทำได้ เครื่องตรวจมะเร็งนี้ จะกลายเป็นเครื่องมือใหม่ เพื่อใช้สำหรับตรวจหาเนื้อร้ายก่อนที่จะลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ
