ที่กรุงวอชิงตัน กำลังมีการถกเถียงโต้แย้งกันอย่างเผ็ดร้อน เกี่ยวกับข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัค โอบามาสำหรับงบประมาณของรัฐบาลกลาง
เป็นที่เห็นกันว่า ข้อเสนอนี้ เป็นแผนการที่คลุมขอบเขตกว้างขวางที่สุด ในการส่งเสริมบทบาทของรัฐบาลสหรัฐ ในสังคมในเวลานานกว่าชั่วอายุคน และจะทำให้มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และขาดดุลมากขึ้นเป็นประวัติการณ์
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวว่า ประชาชนอเมริกันเลือกท่านมาจัดการกับความจำเป็นเร่งด่วน ตั้งแต่การส่งเสริมความเป็นอิสระด้านพลังงาน ไปจนถึงการบริบาลสุขภาพ ตลอดจนการส่งเสริมโอกาสทางด้านการศึกษา และว่าข้อเสนองบประมาณ 3, 500,000 ล้าน [3.5 trillion] ดอลล่าร์สำหรับปี 2553 นั้นเป็นการวางเงินล่วงหน้าสำหรับเป้าหมายเหล่านั้น
รัฐบาลประธานาธิบดีโอบามา กะประมาณว่าในปีการเงินหน้าจะขาดดุลงบประมาณสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1,750,000 ล้าน [1.75 trillion] ดอลล่าร์ ซึ่งมากกว่า 12 % ของผลผลิตมวลรวมแห่งชาติของสหรัฐ และนับว่ามากที่สุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง บรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกันตกตะลึงไปตามๆ กัน
สมาชิกวุฒิสภา Jon Kyl แห่งพรรครีพับลิกันจากรัฐอะริโซนา กล่าวในรายการโทรทัศน์ในวันอาทิตย์ว่า น่าตกใจทั้งในแง่สิ่งบ่งชี้ทางนโยบายและในด้านตัวเลขจำนวนเงิน และว่าข้อเสนองบประมาณนี้จะเพิ่มภาระหนี้สินในอนาคตของประเทศเป็นจำนวนมากกว่าหนี้สินนับตั้งแต่สมัย George Washington ประธานาธิบดีคนแรก จนถึง George W. Bush ประธานาธิบดีคนก่อน
ขณะที่แถลงปกป้องแก้ต่างว่า การขาดดุลมากมายมหาศาลในระยะสั้นเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงเศรษฐกิจซบเซาหนักนั้น ประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่าข้อเสนองบประมาณนี้จะลดช่องว่างด้านรายรับในปีต่อๆ ไปโดยการขจัดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และขึ้นภาษีเงินได้กับคนร่ำรวย
แต่บรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกันกล่าวว่า ประธานาธิบดีโอบามายังมีแผนการที่จะตั้งภาษีใหม่กับการใช้พลังงานด้วย ซึ่งจะมีผลกระทบถึงคนอเมริกันทุกระดับรายได้ สมาชิกพรรครีพับลิกันเห็นว่า ไม่ควรขึ้นภาษีเลยขณะที่เศรษฐกิจกำลังถดถอย
ส.ว. Jon Kyl เสริมว่า นโยบายด้านภาษีควรทำให้รัฐบาล ได้ในสิ่งที่จำเป็นโดยที่ไม่ยังผลเสียต่อเศรษฐกิจ และครอบครัวอเมริกัน และว่าทุกวันนี้ คนที่มีรายได้ปีละ 250,000 ดอลลร์ขึ้นไปในสหรัฐต้องเสียภาษีเงินได้ 60 % อยู่แล้ว
แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดีกล่าวชี้ว่า ประธานาธิบดีโอบามารับช่วงการขาดดุลงบประมาณจำนวนมาก จากรัฐบาลชุดก่อน และว่าข้อเสนงบประมาณของประธานาธิบดีโอบามานั้น รวมทั้งการลดภาษีสำหรับทุกคน นอกจากคนทำงานที่ร่ำรวยที่สุด
Rahm Emanuel หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดี กล่าวในรายการโทรทัศน์ในวันอาทิตย์ว่า คนอเมริกัน 95 % จะได้รับการลดภาษี และจะไม่มีผู้ใดถูกขึ้นภาษีเป็นเวลาสองปี เขากล่าวว่าอัตราภาษีที่ผู้ทำรายได้สูงมากๆ จะกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับอัตราในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีบิล คลินตัน ซึ่งในช่วงนั้นมีการสร้างงานขึ้นมาหลายสิบล้านงานในสหรัฐ
เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโอบามาได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามากมายมหาศาล ซึ่งเห็นได้ว่า การสนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกันสามคน มีความสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้มาตรการนั้นได้รับอนุมัติ
ประธานาธิบดีโอบามา จะสามารถได้รับความสนับสนุนจากสมาชิกทั้งสองพรรค พอที่ข้อเสนองบประมาณนี้จะผ่านหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่จะต้องรอดูกันต่อไป