อีกไม่กี่วัน สหรัฐจะมีรัฐบาลชุดใหม่ นำโดยประธานาธิบดี Barack Obama ความหวังและความคาดหมายที่ผู้คนทั่วไปมีต่อรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นมีอะไรบ้าง
ผลการสำรวจทัศนคติของ Pew Global Attitudes ในปี 2002 และ 2007 แสดงให้เห็นว่า ความคิดเห็นต่อสหรัฐในทางบวกลดลงใน 26 ประเทศจากจำนวนประเทศที่สำรวจทั้งหมด 33 ประเทศ แม้ในประเทศที่เป็นพันธมิตรอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐก็ยังลดลงด้วย และในการสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่สหรัฐควรถอนทหารออกไปจากอิรัคและแอฟกานิสถาน
อาจารย์ แนนซี่ สโนว์ (Nancy Snow) ซึ่งสอนวิชาการทูตสาธารณอยู่ที่มหาวิทยาลัย Syracuse ในรัฐนิวยอร์ค บอกว่า มีความเป็นไปได้ว่า ว่าที่ประธานาธิบดี Barack Obama จะช่วยเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้คนในประเทศต่างๆต่อสหรัฐ
นักวิชาการผู้นี้กล่าวว่า ทั่วโลกหวังว่าผู้สมัครช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีสหรัฐ Barack Obama และ Joe Biden จะชนะการเลือกตั้ง ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น และคิดว่าความรู้สึกต่อต้านอเมริกาลดลงในทันที แต่ความรู้สึกที่ว่านั้นจะยาวนานได้แค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ในการกล่าวปราศัยในคืนวันเลือกตั้ง หลังจากที่รู้ผลแล้ว ว่าที่ประธานาธิบดี Obama ได้ให้คำมั่นว่า จะมีการเริ่มต้นใหม่ของความเป็นผู้นำในโลกของอเมริกา และกล่าวไว้ด้วยว่า จะดำเนินการปกครองไปในทิศทางที่แตกต่างจากรัฐบาลชุดประธานาธิบดีจอร์ช บุช ว่าที่ประธานาธิบดี Obama กล่าวว่าจะปิดคุกที่อ่าวกวนตานาโมในประเทศคิวบา และว่าสหรัฐจะไม่ใช้การทรมานเพื่อหาข้อมูลข่าวสาร
อาจารย์ Nancy Snow ให้ความเห็นว่า ว่าที่ประธานาธิบดี Obama รู้ดีว่า การฟื้นฟูความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นกุญแจสำคัญทั้งในประเทศและกับต่างประเทศ นักวิชาการผู้นี้ให้ความเห็นว่า เครื่องมือสำคัญที่ควรจะนำมาใช้ในเวลานี้ คือ อำนาจนิ่ม หรือ Soft Power ซึ่งรวมถึงการโน้มน้าวใจโดยไม่ใช้กำลังรุนแรง แต่อาศัยการกระทำเป็นตัวอย่าง อาจารย์ Nancy เชื่อว่า ว่าที่ประธานาธิบดี Obama สามารถใช้ความเชี่ยวชาญในการสื่อสารติดต่อและพื้นภูมิทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ฟื้นฟูสมรรถนะของอเมริกาในเรื่องอำนาจนิ่มได้ โดยอาศัยการทูตและโครงการพัฒนาต่างๆ
นักวิเคราะห์ Kristen Lord ของสถาบัน Brookings ที่กรุงวอชิงตัน และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโลกอิสลาม มองการณ์ไปในทางดีว่า ว่าที่ประธานาธิบดี Barack Obama จะช่วยเปลี่ยนแปลงน้ำเสียงในการเจรจาหารือกับประเทศต่างๆจากแนวทางโดดเดี่ยวไปเป็นแนวทางที่แสดงความเคารพและความร่วมมือซึ่งกันและกัน
นักวิเคราะห์ของสถาบัน Brookings ผู้นี้ กล่าวว่า เมื่ออเมริกาแสดงความเต็มใจที่จะรับฟัง ที่จะเข้าร่วมด้วย ที่จะหาทางแก้ไขปัญหาท้าทายที่สังคมมุสลิมกำลังเผชิญหน้าอยู่ แม้จะดูเหมือนว่าขัดกัน แต่จริงๆแล้ว จะทำให้อเมริกามีความมั่นคงยิ่งขึ้น
ในการแถลงปากคำต่อคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อขอรับการยืนยันการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ วุฒิสมาชิก Hillary Clinton กล่าวว่า จะไม่อาศัย “อุดมการณ์ที่ไม่ยืดหยุ่น” ที่นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อมโยงเข้ากับนโยบายต่างประเทศของ ประธานาธิบดี จอร์ช บุช
วุฒิสมาชิก Clinton กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า ความเป็นผู้นำของอเมริกานั้นขาดหายไป แต่ก็ยังเป็นที่ต้องการ และเชื่อว่าสิ่งที่จะต้องทำกันต่อไป คือการใช้อำนาจอย่างชาญฉลาด ซึ่งหมายถึงการใช้เครื่องมือต่างๆที่มีอยู่ทั้งหมดให้เป็นประโยชน์ รวมทั้ง การทูต เศรษฐกิจ การทหาร การเมือง กฎหมาย และวัฒนธรรม ใช้เครื่องมือที่ถูกต้องกับสถานการณ์แต่ละเรื่อง ทั้งหมดนี้จะทำให้การทูตเป็นแนวหน้าของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐได้
วุฒิสมาชิก Clinton กล่าวว่า ตัวเธอและว่าที่ประธานาธิบดี Obama จะพยายามใช้การโน้มน้าวชักจูงก่อนสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น และว่าสหรัฐจำเป็นจะต้องหาเพื่อนให้มากขึ้น และสร้างศัตรูให้น้อยลง
