ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การจัดอันดับด้านสุขภาพของชาวอเมริกันในรัฐต่างๆ


การสำรวจประจำปี เกี่ยวกับสุขภาพของชาวอเมริกันในรัฐต่างๆ พบว่า โดยทั่วไปแล้วสุขภาพคนอเมริกันไม่ได้ดีขึ้นมากนัก และสหรัฐล้าหลังประเทศอื่นๆ 27 ประเทศในด้านคุณภาพและการอำนวยความสะดวกด้านบริบาลสุขภาพ

United Health Foundation มูลนิธิที่ไม่แสวงผลกำไร ที่ทำงานวิจัยสำหรับกลุ่ม บริษัทด้านการบริบาลสุขภาพ จัดทำรายงาน “America ’s Health Rankings” จัดอันดับด้านสุขภาพของชาวอเมริกันในรัฐต่างๆ มาเป็นเวลา 19 ปีแล้ว

รายงานประจำปีนี้ ระบุว่า ในเวลา 4 ปีที่ผ่านมา สุขภาพโดยทั่วไปของคนอเมริกัน ไม่ค่อยจะดีขึ้นเท่าใดนัก นายแพทย์ Manuel Selva ที่ปรึกษาของมูลนิธิ United Health กล่าวว่า มีสาเหตุสำคัญ 3 ประการ

ประการแรก พลเมืองอเมริกันราว 20 % ยังคงสูบบุหรี่ ปีหนึ่งๆ มีคนเสียชีวิตสืบเนื่องจากการสูบบุหรี่มากกว่า 400,000 คน ประการที่สองคือ โรคอ้วน ซึ่งคนอเมริกันรุ่นใหม่เป็นโรคอ้วนมากขึ้นเท่าตัว และประการที่สาม ซึ่งสำคัญที่สุด คือ ข้อเท็จจริงที่ว่า พลเมืองอเมริกันราว 46 ล้านคน หรือ เกือบ 16 % ไม่มีประกันสุขภาพ

การประเมินดังกล่าว มาจากการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ 22 อย่าง ตั้งแต่แบบฉบับการดำเนินชีวิต ไปจนถึงบริการด้านการแพทย์ที่มีสำหรับประชาชน ตลอดจนแนวโน้มเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ และอัตราการเสียชีวิต จากการวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้ ในแต่ละรัฐของสหรัฐ แสดงว่า รัฐ Vermont ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นรัฐที่ประชาชนทั่วไปสุขภาพดีที่สุด เป็นปีที่สองติดต่อกัน

นายแพทย์ Manuel Selva กล่าวว่า รัฐ Vermont ยังคงติดอันดับหนึ่ง เพราะยังทำงานอย่างต่อเนื่อง ในการช่วยปรับปรุงพฤติกรรมของประชาชน ในการรักษาสุขภาพ ตั้งแต่ปีที่แล้ว การสูบบุหรี่ในรัฐนี้ลดลง มากกว่า 17 % ตอนที่มูลนิธิ United Health เริ่มเสนอรายงาน “America ’s Health Rankings” ฉบับแรกเมื่อเกือบ 20 ปีมาแล้วนั้น รัฐ Vermont อยู่ในอันดับ 16 และในเวลา 8 ปีที่ผ่านมารัฐนี้มีเด็กยากจนลดลง และการเข้าถึงบริการด้านบริบาลสุขภาพ ที่สำคัญก็มีมากขึ้น และบริการด้านการสร้างภูมิต้านทานโรคก็ดีขึ้น

ส่วนรัฐ Hawaii เขยิบฐานะจากอันดับสามในปี 2550 ขึ้นมาเป็นอันดับสองในปีนี้ ตามด้วยรัฐ New Hampshire รัฐ Minnesota และรัฐ Utah ส่วนรัฐที่รั้งท้ายสุด คือ Louisiana ทางภาคใต้ที่กำลังพยายามฟื้นตัวอย่างทุลักทุเลหลังจากถูกพายุ Katrina ถล่มเสียหายยับเยินทั้งบ้านเมืองและเศรษฐกิจเมื่อปี 2548
นอกจากการประเมินสภาพการณ์ด้านสุขภาพในรัฐต่างๆ ของสหรัฐแล้ว การวิจัยนี้ ยังเปรียบเทียบสหรัฐกับประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย

แม้ว่าสหรัฐจะใช้จ่ายด้านการบริบาลสุขภาพ ปีละมากกว่าสองล้านล้านดอลล่าร์ ซึ่งมากกว่าประเทศอื่นๆ มาก แต่ปรากฏว่าสหรัฐตามหลังประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ 27 ประเทศทั้งในด้านการมีสุขภาพดีและความมีอายุยืน และในบรรดาประเทศพัฒนา 21 ประเทศนั้น สหรัฐอยู่อันดับรองสุดท้ายในแง่สุขภาพเด็ก

นายแพทย์ George Benjamin แห่งสมาคม American Public Health ซึ่งร่วมมือในการจัดทำรายงานนี้ กล่าวว่า แม้ในช่วงเวลาที่สหรัฐเศรษฐกิจดี สภาพการณ์ด้านสุขภาพของประชาชน ยังไม่ค่อยจะดีขึ้น จึงน่าเป็นห่วงว่า ขณะที่เศรษฐกิจเสื่อมทรุดลงนี้ สภาพการณ์ด้านสุขภาพจะเลวร้ายลงไปด้วย

คณะผู้จัดทำรายงานหวังกันว่า รายงานนี้จะช่วยกระตุ้นให้มีการถกอภิปรายกัน และมีการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆเพื่อให้คนในสหรัฐมีสุขภาพดีขึ้น



XS
SM
MD
LG