ลิ้งค์เชื่อมต่อ

กลุ่มประเทศโอเปก ร่วมประชุมฉุกเฉินที่กรุงไคโรเมื่อวันเสาร์


เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก ร่วมประชุมฉุกเฉินที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เพื่อหาวิธีหยุดยั้งสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างมากในปัจจุบัน โดยที่ประชุมมีมติให้ยืดเวลาการตัดสินใจลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบออกไป จนถึงการประชุมครั้งหน้าที่ประเทศแอลจีเรียในเดือนธันวาคม

สมาชิกประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก ยืดเวลาการตัดสินใจว่าจะลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบหรือไม่ ไปจนถึงการประชุมครั้งหน้าในวันที่ 17 ธันวาคม เพื่อให้ประเทศสมาชิกได้ไตร่ตรองว่าความพยายามลดปริมาณการผลิตครั้งที่ผ่านๆ มา ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลกเพิ่มขึ้นบ้างหรือไม่ นาย Chakib Khelil ประธานกลุ่มโอเปกกล่าวกับผู้สื่อข่าว ภายหลังการประชุมฉุกเฉินที่กรุงไคโรว่า กลุ่มโอเปกจะพยายามทุกวิถีทาง เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบโลกในปัจจุบัน

เมื่อวันเสาร์ กลุ่มโอเปกตัดสินใจเรียกประชุมฉุกเฉินประเทศสมาชิก แทนที่จะรอจนถึงกำหนดการประชุมครั้งหน้าที่แอลจีเรีย เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกลดลงอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และแม้บรรดาประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปกจะต้องการให้ราคาน้ำมันดิบโลกเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ไม่อยากถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอยู่เช่นกัน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันซาอุดิอาระเบีย Ali al-Naimi กล่าวว่า ยังไม่มีมาตรการลดการผลิตน้ำมันดิบใดๆ ออกมาจนกว่าจะถึงเดือนธันวาคม และว่าการประชุมเมื่อวันเสาร์ เป็นเพียงการหารือและเตรียมการสำหรับการประชุมครั้งหน้าที่แอลจีเรีย การตัดสินใจใดๆ จะกระทำกันที่การประชุมโอเปกครั้งหน้า หลังจากที่มีการศึกษาตลาดน้ำมันดิบโลกในปัจจุบันอย่างถี่ถ้วนแล้ว รัฐมนตรี al-Naimi ยังบอกด้วยว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันส่วนใหญ่ ต่างเคารพต่อโควต้าการผลิตของตน เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อผลประโยชน์ของทุกคน

ทางด้านกษัตริย์อับดุลลาห์แห่งซาอุดิอาระเบีย ทรงให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า ราคาน้ำมันดิบที่บาร์เรลละ 75 ดอลล่าร์คือราคาที่ยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย ในขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันกาตาร์ Abdallah al Attiyah ก็กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ราคาน้ำมันที่ต่ำกว่าระดับ 70 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล จะส่งผลให้การลงทุนในภาคการผลิตน้ำมันต้องหยุดชะงัก ก่อให้เกิดปัญหาต่อการผลิตในอนาคต

รัฐมนตรีน้ำมันกาตาร์บอกว่า ทางกลุ่มโอเปกต้องการดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลกให้ถี่ถ้วน ก่อนการตัดสินใจลดปริมาณการผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ Louis Hobeika แห่งมหาวิทยาลัย Notre Dame ในกรุงเบรุต ให้ความเห็นว่า การลดปริมาณการผลิตน้ำมันอาจจะไม่ช่วยให้ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นก็เป็นได้

นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่า เวลานี้ตลาดน้ำมันคือตลาดของผู้ซื้อ หมายความว่าผู้ผลิตไม่สามารถทำอะไรได้มากนักกับราคาที่ลดลง แน่นอนว่าหากผู้ผลิตลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงถึง 5 ล้านบาร์เรลต่อวันก็จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน แต่บรรดาประเทศผู้ผลิตไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะงบประมาณของประเทศเหล่านั้น ขึ้นอยู่กับรายได้จากน้ำมันเป็นหลัก ดังนั้น แม้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะต้องการฉุดให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำได้ด้วยการลดปริมาณการผลิต เช่นเดียวกับเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่มาตรการลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกลง 1 ล้าน 5 แสนบาร์เรลต่อวัน ไม่ได้ทำให้ราคาน้ำมันโลกเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

ปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบโลกร่วงลงไปจนถึงระดับ 54 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ ลดลงจากระดับราคาสูงสุดเมื่อเดือนกรกฏาคมถึง 60%

XS
SM
MD
LG