การเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐในปีนี้ มีการเอ่ยชื่อโจ หลายชื่อด้วยกัน โจแรก คือโจ ไบเด้น ผู้สมัครตำแหน่งรอง ปธน.คู่กับบารัค โอบาม่า โจที่สองคือ โจ ซิกซ์แพ็ค ซึ่งเป็นชื่อที่ผู้ว่าการซาร่าห์ เพลิน กล่าวในทำนองอุปมาพังเพย ระหว่างการโต้อภิปรายของรอง ปธน. ล่าสุดคือ โจ เดอะ พลัมเมอร์ ที่มีการกล่าวถึงระหว่างการโต้คารม โดย สว.จอห์น แม็คเคน
แซม โจ เวิร์สเซิล บัคเคอร์ หรือโจ ช่างท่อประปาวัย 34 ปี ไปฟัง สว.บารัค โอบาม่า ปราศรัยหาเสียงที่รัฐโอไฮโอ เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว และมีโอกาสได้ถาม สว.โอบาม่า เกี่ยวกับแผนที่จะเก็บภาษีเพิ่ม สำหรับผู้ที่มีรายได้เกินกว่า 250,000 ดอลล่าร์ต่อปี
โบอก สว.โอบาม่าว่า ที่ถามเรื่องนี้ ก็เพราะกำลังคิดจะซื้อธุรกิจติดตั้งท่อประปา แต่กลัวว่าถ้าซื้อแล้วจะทำให้เขามีรายได้มากกว่า 250,000 ดอลล่าร์ และต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นตามแผนของสว.โอบาม่า
ในการโต้วาทีเมื่อคืนวันพุธ สว.จอห์น แม็คเคนใช้เรื่องนี้มาโจมตี โดยเรียกแผนของ สว.โอบาม่า ที่จะเพิ่มภาษีสำหรับคนอเมริกันที่ร่ำรวยว่า เป็นสงครามชนชั้น
สว.จอห์น แม็คเคน บอกกับโจทางโทรทัศน์ว่า ไม่เพียงแต่จะช่วยให้โจซื้อธุรกิจที่ว่านั้น แต่จะรักษาระดับภาษีไว้ให้ต่ำ และยังจะจัดหาการประกันสุขภาพในราคาที่รับได้ ให้กับโจและลูกจ้างในบริษัทด้วย และจะไม่ยอมให้มีการเพิ่มรายได้ สำหรับภาษีขนาดย่อมเป็นอันขาด
สว.บารัค โอบาม่ากล่าวโต้ว่า ที่ได้อธิบายให้โจฟังก็คือ เมื่อห้าปีก่อนหน้านั้น โจยังไม่อยู่ในฐานะที่จะซื้อธุรกิจนั้นได้ และได้รับกการลดภาษีเงินได้ ที่ตนต้องการทำในตอนนี้ คือลดภาษีให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า ไม่ว่าจะเป็นช่าวท่อประปา พยาบาล พนักงานดับเพลิง และผู้ประกอบการใหม่ๆ ที่ยังไม่มีเงิน
รับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณนิตยา มาพึ่งพงศ์
