กีฬาโอลิมปิคที่กรุงปักกิ่ง ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ ในด้านของผลการแข่งขันโอลิคปิคครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีการสร้างสถิติโลกนับสิบรายการ แต่ในด้านของการเมืองและสังคมยังคงเกิดคำถามมากมาย
กีฬาโอลิมปิคครั้งที่ 29 ที่กรุงปักกิ่งเป็นเจ้าภาพปิดฉากลงไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่ เจ้าภาพได้จัดการแข่งขันรวมถึงพิธีเปิดและปิดได้อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งผ่านสายตาผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกไปแล้ว สมกับที่รัฐบาลจีนลงทุนไปกับงานนี้ถึง 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ที่ทันสมัยและการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออวดชาวโลก
คุณคาลิด มาลิค หัวหน้าสำนักงานสหประชาชาติในจีน มองว่า การเป็นเจ้าภาพโอลิมปิคคือความสำเร็จครั้งสำคัญของบรรดาผู้นำจากชาติกำลังพัฒนาเช่นจีน โครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดของกรุงปักกิ่งได้รับการปรับปรุง ตั้งแต่เส้นทางรถโดยสารไปถึงเครือข่ายรถไฟฟ้าใต้ดิน รัฐบาลและชาวจีนตระหนักมากขึ้นว่า อากาศที่สะอาดบริสุทธิ์และการขนส่งที่สะดวกรวดเร็วขึ้นมีความสำคัญต่อสังคม ซึ่งทั้งหมดนี้คือมรดกที่ยาวนานไปถึงอนาคต
นั่นคือผลที่เป็นรูปธรรมที่รับรู้อย่างกว้างขวาง แต่นักวิชาการอีกหลายคนคิดว่าโอลิมปิคครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จนักในการทำให้สังคมจีนเปิดกว้างขึ้น จริงอยู่ที่ผู้สื่อข่าวจากต่างประเทศได้รับอนุญาตให้รายงานข่าวได้เสรีขึ้น แต่ก็ยังพบกับข้อจำกัดอีกหลายประการ เริ่มตั้งแต่เว็บไซด์บางแห่งยังคงถูกปิดกั้น แม้รัฐบาลจีนเคยสัญญาก่อนที่โอลิมปิคจะเริ่มขึ้นว่าจะอนุญาตให้เข้าถึงเว็บไซด์เหล่านี้ได้อย่างเสรี
นอกจากนี้ แม้รัฐบาลจีนจัดเตรียมสถานที่ไว้เป็นพิเศษสำหรับการประท้วง แต่จากจำนวนคำร้องขอการประท้วง 77 ครั้ง ไม่มีซักครั้งที่ได้รับอนุญาต มิหนำซ้ำมีรายงานว่าผู้ยื่นคำร้องบางคนถูกควบคุมตัว
นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน เห็นว่า โดยแท้จริงแล้วโอลิมปิคครั้งนี้ยิ่งปิดกั้นองค์กรทางศาสนาและกลุ่มเชื้อชาติบางกลุ่ม รวมไปถึงผู้มีความคิดเห็นไม่ลงรอยทางการเมือง รัฐบาลจีนยังได้ทำลายบ้านเรือนประชาชนบางแห่ง ขับไล่แรงงานอพยพ ขอทาน และคนจรจัดออกจากกรุงปักกิ่งเพื่อเตรียมรับโอลิมปิค
คุณเดวิด วอลเลคเชนสกี้ ผู้แต่งหนังสือเกี่ยวกับโอลิมปิค ไม่คาดว่าโอลิมปิคครั้งนี้จะเปลี่ยนนแปลงระบอบการปกครองเผด็จการโดยพรรคการเมืองเดียวของจีนได้ เขาคิดว่ารัฐบาลจีนใช้โอลิมปิคครั้งนี้เพื่อส่งเสริมอำนาจและชื่อเสียงของตัวเองมากกว่า
ความคิดของคุณเดวิดนั้น สอดคล้องกับความคิดของคุณไฮเม่ เมทเซิล ผู้อำนวยการของโครงการเอเชียสมาคมที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ คุณไฮเม่ เชื่อว่า รัฐบาลพรรคการเมืองเดียวของจีนใช้กีฬาโอลิมปิคเพื่อเพิ่มความชอบธรรมให้แก่รัฐบาลในการปกครอง
คุณไฮเม่ บอกว่า ความชอบธรรมของรัฐบาลเกิดมาจากความสามารถทำสิ่งต่างๆ ให้เห็นเด่นชัด เช่น การสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจ หรือการแสดงออกที่เป็นสัญลักษณ์ เช่น โอลิมปิค ซึ่งเห็นได้ว่ารัฐบาลจีนไม่ได้ทำได้เพียงเทียบเท่าระดับโลก แต่ทำได้เหนือกว่าซะด้วยซ้ำ
ทางด้าน คุณวิคเตอร์ ชา ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษามหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในกรุงวอชิงตัน บอกว่า ผู้นำจีนไม่สนใจการเปิดเสรีอย่างสมบูรณ์และรวดเร็ว แต่แรงกดดันจะยังมีอยู่ต่อไปหลังจากที่โอลิมปิคจบลงไปแล้ว
แต่จะอย่างไรก็ตาม ในความเห็นของคุณคาลิด มาลิค หัวหน้าสำนักงานสหประชาชาติในจีน โอลิมปิคครั้งนี้ได้ทิ้งสิ่งต่างๆ ไว้ให้จีนมากมาย ซึ่งไม่อาจมองข้ามไปได้ มรดกชิ้นใหญ่ที่สุดก็คือการลดความยากจน ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น
คุณคาลิด เชื่อว่า จีนหลังโอลิมปิคจะไม่ใช่จีนแบบเดิม เราไม่อาจมองข้ามความภาคภูมิใจของจีนที่เป็นจ้าวเหรียญทอง ในเมื่อตลอด 150 ปีที่ผ่านมาพวกเขารู้สึกถึงแต่ความต่ำต้อยและอัปยศอดสูมาโดยตลอด และนี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนจึงเชื่อว่าจีนจะแสดงความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นบนเวทีโลก ทั้งในด้านกีฬา การค้าและการเมืองระหว่างประเทศ