ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รายงานการศึกษาวิจัยเรื่องโรคเอดส์


นักวิจัยลงความเห็นว่า การสั่งจ่ายยาต้านเชื้อ ไวรัสแบบเดิมสามชนิดร่วมกัน ได้ผลดีที่สุดในการใช้ระงับอาการจากเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์นั้น วิธีการประเมินดูความก้าวหน้า ของโรคนี้มีอยู่ 2 วิธี ในประเทศที่ร่ำรวย แพทย์จะใช้วิธีตรวจเลือดแบบมีราคาแพง เพื่อดูปริมาณไวรัสในเลือด ที่จะบอกได้ว่ายาต้านเอดส์ใช้ได้ผลดีแค่ไหน ส่วนในประเทศกำลังพัฒนาจะใช้การ ตรวจเลือดแบบราคาไม่แพง และไม่ค่อยน่าเชื่อถือ เพื่อนับปริมาณเซล CD4 หรือเซลระบบภูมิต้าน ทานของร่างกาย แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ถ้าหากผู้ป่วยโรคเอดส์ หมั่นรับประทานยาตามแพทย์สั่ง อย่างเคร่งครัด ก็จะให้ผลดีเหมือนๆ กับการตรวจเลือด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยในประเทศกำลัง พัฒนา

ในอีกด้านหนึ่งมีข่าวดีสำหรับผู้ป่วยโรคนี้ นักวิจัยลงความเห็นว่า การสั่งจ่ายยาต้านเชื้อไวรัสแบบเดิมสามชนิดร่วมกัน ได้ผลดีที่สุดในการใช้ระงับอาการจากเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์

ในขณะที่ยังไม่สามารถรักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ การมียาต้านไวรัสเอชไอวีชนิด ใหม่ๆ ออกมา ก็ทำให้แพทย์หลายคนสับสนว่าควรจะสั่งยาชนิดไหนให้กับผู้ป่วยของตนดี เพื่อที่จะใช้ยับยั้งการพัฒนาของโรคดังกล่าว

คุณแชรอน ริดด์เลอร์ ศาสตราจารย์คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยพิสเบิร์ก ในรัฐเพนซิลเวเนีย กล่าวว่ายังไม่สามารถระบุได้ว่ายาต้านเชื้อไวรัสชนิดใดที่ใช้ได้ผลดีที่สุด และว่าตอนนี้แพทย์มีตัวยาชนิดต่างๆ เป็นทางเลือกมากขึ้น ที่จะนำมาเปรียบเทียบดูประสิทธิผล ของยาเหล่านั้น

ศาสตราจารย์แชรอน ผู้นำการศึกษาวิจัย ร่วมกับคณะนักวิจัยนานาชาติ ได้เปรียบเทียบ ประสิทธิภาพของการรักษาด้วยการใช้ตัวยาสามชนิดร่วมกันสองขนาน กับการใช้ตัวยาสองชนิดร่วม กันอีกหนึ่งขนาน เพื่อยับยั้งเชื้อไวรัสเอชไอวี

การใช้ตัวยาสามชนิดร่วมกันทั้งสองขนาน มีตัวยาเก่า ซึ่งได้รับอนุมัติจากองค์กรควบคุมยา สหรัฐ และมีใช้อยู่ทั่วโลก

นักวิจัยศึกษาผู้ป่วย 753 คนใน 55 ประเทศ พบว่าการใช้ยาร่วมกันทั้งสามชนิด และสอง ชนิด ได้ผลดีในการยับยั้งเชื้อไวรัส และชะลอการพัฒนาของโรค

แต่การใช้ยาร่วมกันสามชนิด ซึ่งมีตัวยาเก่ารวมอยู่ด้วย จะใช้ได้ผลดีกว่าการใช้ตัวยาสอง ชนิดร่วมกัน

ศาสตราจารย์แชรอนบอกว่า ยาสามชนิดที่ใช้ร่วมกันนั้น มียา efavirenz รวมอยู่ด้วย

ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยพิสเบิร์กผู้นี้กล่าวต่อไปว่า สูตรยาดังกล่าวปลอดภัย และได้ผลดีที่สุด และเชื่อว่าให้ผลดีกว่าสูตรยาอื่นๆ ที่มีใช้อยู่ด้วย

ในขณะที่เรื่องนี้เป็นข่าวดีสำหรับผู้ป่วยในประเทศพัฒนาแล้ว ที่สามารถซื้อหายา efavirenz มาใช้ได้ แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ยานี้มีราคาแพงเกินไป

คุณ Gus Cairns แห่งกลุ่มรณรงค์เพื่อรักษาโรคเอดส์ ซึ่งเป็นองค์กรที่เฝ้าระวังเรื่องยาต้าน เชื้อไวรัสเอชไอวี กล่าวว่ายา Nivarapine เป็นยาต้านเอดส์ที่เป็นทางเลือกสำหรับประเทศที่ยากจน เพราะมีราคาถูก แต่เขาคิดว่าเรื่องนี้สมควรที่จะเปลี่ยนแปลงได้แล้ว เนื่องจากยา efavirenz ใช้ได้ ผลดีกว่า

คุณ Gus Cairns กล่าวว่า มีหลักฐานบางอย่างที่ชี้ว่า ยา nivarapine มีประสิทธิภาพใกล้ เคียงกับยา efavirenz แต่ก็ควรจะเลือกใช้ยาที่ใช้ได้ผลดีที่สุด เขาคิดว่าผู้ผลิตยา efavirenz น่าจะลดราคายาให้ต่ำลง เนื่องจากต้องใช่ร่วมกับยาต้านเอดส์ชนิดอื่นๆ

รายงานเรื่องนี้ ตีพิมพ์อยู่ในวารสารการแพทย์นิว อิงแลนด์


XS
SM
MD
LG