ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การประกวดแข่งขันทางธุรกิจสำหรับเยาวชนในสหรัฐ


การประกวดแข่งขันทางธุรกิจสำหรับเยาวชนในสหรัฐ สามารถช่วยพัฒนาความรู้ทางเศรษฐกิจและ การเงินของเด็กๆ อเมริกันได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเรื่องการเปิดร้านขายหนังสือในโรงเรียน โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้เด็กนักเรียนพัฒนาความสามารถทางการอ่านเขียนภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น

เมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิเพื่อการอบรมผู้ประกอบการธุรกิจได้จัดงานการแข่งขันร่างแผนธุรกิจขึ้นที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ผลปรากฏว่าน้อง Huong Cheng อายุ 17 ปี เป็นผู้ชนะเลิศการประกวดดังกล่าว และจะเป็นตัวแทนในการแข่งขันในระดับชาติต่อไป

ผลงานของน้อง Cheng คือแผนธุรกิจสำหรับบริษัทจัดหานักเรียนมัธยมอาสาสมัครไปทำงานเล็กๆน้อยๆให้กับคนสูงอายุที่เกษียณอายุการทำงานแล้ว โดยครอบครัวของผู้สูงอายุจะเป็นคนจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่บริษัท และบริษัทก็จะนำเงินที่ได้นั้นมาแบ่งสันปันส่วนให้แก่ชมรมต่างๆ ในโรงเรียนที่นักเรียนอาสาสมัครเหล่านั้นสังกัดอยู่

ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อเดือนที่แล้วที่นครนิวยอร์ค มีการแข่งขันตอบคำถามทางธุรกิจระดับเยาวชนทั่วประเทศรอบสุดท้าย National Economics Challenge ครั้งที่ 8 ซึ่งจัดขึ้นโดยสภาการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์แห่งชาติร่วมกับมูลนิธิ Goldman Sachs มีนักเรียนเข้าร่วมแข่งขัน 16 คน จากโรงเรียนมัธยม 4 แห่งจากรัฐอลาบาม่า แคลิฟอร์เนีย ฮาวายและอินเดียน่า ผู้ร่วมแข่งขันต้องตอบคำถามต่างๆ ตั้งแต่เรื่องการเงินส่วนบุคคลไปจนถึงทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ ตลอดจนสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน นักเรียนที่ชนะเลิศและครูผู้ฝึกสอนจะได้รับรางวัลเป็นพันธบัตรรัฐบาลคนละ 3 พันดอลล่าร์ ซึ่งเป้าหมายของการจัดการแข่งขันทั้ง 2 งานที่กล่าวมา คือการกระตุ้นให้เยาวชนรุ่นใหม่มีความรู้ความชำนาญด้านการเงิน และการดำเนินธุรกิจมากขึ้น และยังสนับสนุนให้นักเรียนเรียนรู้การตัดสินใจด้วยตัวเองอีกด้วย

แม้ความรู้ด้านธุรกิจจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่ความสามารถด้านการอ่านเขียนภาษาอังกฤษก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เมื่อเร็วๆ นี้ที่โรงเรียนมัธยม Parkway Heights ในรัฐแคลิฟอร์เนียมีโครงการเปิดร้านขายหนังสือประจำโรงเรียนขึ้น โดยมีนักเรียนเป็นพนักงานในร้านดังกล่าว และขายหนังสือดีราคาถูก เป้าหมายหลักคือการพัฒนาทักษะความรู้ทางภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียน ที่ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่พูดภาษาสเปนเป็นหลักและมีฐานะยากจน ร้านค้าที่ว่านี้ได้รับเงินสนับสุนนจากองค์กร Schoolwide ซึ่งเป็นกลุ่มที่ช่วยเหลือในการเปิดร้านขายหนังสือในโรงเรียน คุณครู ทริซ ไอแซคและครูสไวเคอ ชันดูรี ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือในโรงเรียน Parkway Heights หวังว่าร้านหนังสือแห่งนี้จะช่วยให้เด็กๆ มีนิสัยรักการอ่านมากขึ้นแม้ว่าอาจจะต้องแข่งกับห้องสมุดของโรงเรียนก็ตาม ซึ่งนักเรียนบางคนก็เห็นด้วยว่า บรรยากาศในห้องสมุดนั้นเงียบเกินไป ในขณะที่ร้านขายหนังสือดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่เป็นกันเองและสามารถพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ ได้มากกว่า รวมทั้งยังสามารถเดินชมหนังสือแล้วซื้อกลับไปอ่านที่บ้านเป็นสมบัติส่วนตัวได้อีกด้วย อย่างนี้คงต้องบอกว่า วิธีไหนไม่สำคัญ แค่ทำให้เด็กๆ สนใจอ่านหนังสือได้มากขึ้นก็พอแล้ว

XS
SM
MD
LG