การศึกษาครั้งใหม่พบว่า ตอนนี้มีผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีในประเทศ ที่มีรายได้ต่ำ และรายได้ปานกลางราว 3 ล้านคน กำลังได้รับยาต้านไวรัส เพื่อช่วยชีวิต แต่องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ยังมีผู้ติดเชื้ออีกหลายล้านคน ที่ยังไม่ได้รับการศึกษาว่า จะป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้อย่างไร และที่ยังไม่ได้รับการบำบัดรักษา
องค์การอนามัยโลก เรียกการรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ด้วยวิธีดังกล่าว ว่าเป็นเรื่อง ที่ประสบความสำเร็จมาก แต่ก็ยังมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีอีกหลายล้านคน ที่ยังไม่ได้รับยา เพื่อช่วยให้มีชีวิตยืนยาวขึ้น
รายงานระบุว่าเมื่อปีที่แล้ว 1 ใน 3 ของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งเป็นสาเหตุของ โรคเอดส์ กำลังรับการรักษา แต่ยังคงเหลือผู้ที่ต้องทนทุกข์ด้วยโรคเอดส์อีก 6 ล้าน 7 แสนคน ที่ไม่ได้รับการรักษาดังกล่าว
นางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า โรคเอดส์ ไม่ได้หยุดอยู่กับที่ ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และว่าจำเป็นต้องให้ความ เอาใจใส่ในเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคนี้
นางมาร์กาเร็ต ชานกล่าวว่าเมื่อผู้ป่วยทุกๆ 2 คนได้รับยาต้านไวรัส ก็จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 5 คน ดังนั้น ถ้าหากไม่มุ่งความสนใจในเรื่องการของป้องกัน ก็จะตามโรคนี้ไม่ทัน
รายงานยังชี้ด้วยว่า ราว 3 ใน 4 ของผู้ที่ได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีนั้นอยู่ในอาฟริกา ที่ซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรคนี้รุนแรงมาก องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ครึ่งหนึ่งของผู้ ที่ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกเป็นผู้หญิง และราว 60 เปอร์เซนต์ของผู้ที่ติดเชื้อนี้ อยู่ทางตอน ใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า ในอาฟริกา
คุณปาสคาล วีเยอเนิฟ รองผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟในนครเจนีวา กล่าวว่าการ ป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวี จากแม่ไปสู่ลูกนั้นพัฒนาขึ้น แต่มีเด็กทารกอีกหลายคน ที่ยังคงติดเชื้อ เพราะมีผู้หญิงจำนวนมาก ที่เพิ่งทราบว่าตัวเองติดเชื้อในขณะที่ตั้งครรภ์ หรือในระหว่างการคลอดบุตร
คุณปาสคาล วีเยอเนิฟกล่าวว่า มีเด็กๆ กว่า 4 แสนคนที่เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ในปี 2550 และถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษา ราว 1 ใน 3 ของเด็กๆ เหล่านี้จะเสียชีวิตในช่วงปีแรก ของชีวิต และอีกเกือบครึ่งหนึ่งจะเสียชีวิตในปีที่สอง เด็กที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 7 หมื่น 5 พันคน ในปี 2548 เป็นราว 2 แสนคน ในปี 2550 อย่างไรก็ ตาม มีเด็กที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้รับการรักษา และอัตราการเสีย ชีวิตของเด็กเหล่านี้ก็สูงมาก เกินกว่าที่จะรับได้
องค์การอนามัยโลกเชื่อว่า การรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ทั่วโลกด้วยยาต้านไวรัสนั้น จะประสบความสำเร็จ หากสามารถพิชิตอุปสรรคต่างๆ ได้ และชี้ว่าวัณโรคเป็นสาเหตุ สำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ทั่วโลกเสียชีวิต และเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเสียชีวิต ของผู้ติดเชื้อในอาฟริกาด้วย
องค์การอนามัยโลกกล่าวอีกว่า การเสียชีวิตของคนเหล่านั้น อาจเป็นเพราะไม่สา มารถป้องกันวัณโรคได้ หรือไม่ได้รับยาบำบัดทั้งวัณโรค และโรคเอดส์
นอกจากนี้ การที่จะเข้ารับการรักษา ก็ค่อนข้างเชื่องช้า เพราะระบบสาธารณสุขใน ประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อสูง ยังไม่ดีพอ และไม่สามารถให้การฝึกอบรม หรือชักชวนโน้ม น้าวเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้อยู่ทำงานต่อไปได้