ลิ้งค์เชื่อมต่อ

องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนนานาชาติ เชื่อผู้สูญหายชาวแคชเมียร์ถูกฝังในหลุมศพนิรนาม


องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนนานาชาติและท้องถิ่นทั้งในอินเดียและในปากีสถาน ประนามการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลอินเดียในการจัดการกับกลุ่มติดอาวุธปลดแอกแคช เมียร์ในช่วง 19 ปีที่ผ่านมาและเรียกร้องให้สอบสวนเรื่องการค้นพบหลุมศพนิรนามจำนวนเกือบพันแห่งในจามมูแคชเมียร์ ที่เชื่อว่าเป็นที่ฝังร่างชาวแคชเมียร์ที่หายตัวไปหลังจากถูกทางการจับตัวไปตั้งแต่เกิดปัญหาขัดแย้งนี้

แคว้นจามมูกับแคชเมียร์เป็นดินแดนที่สร้างความไม่ลงรอยให้แก่อินเดียกับปากีสถานสองชาติเพื่อนบ้านจนทำสงครามแย่งดินแดนแห่งนี้กันเมื่อ 60ปีก่อน และนำไปสู่การแทรกแซงของสหประชาชาติ ทั้งสองฝ่ายยุติสงครามและตกลงขีดเส้นแบ่งเขตแดนที่แบ่งแคว้นจามมูกับแคชเมียร์ออกเป็นสองฟาก คือ อาซ้าส จามมู แคชเมียร์ ฝั่งปากีสถานและจามมู-แคชเมียร์ฝั่งอินเดียที่กินพื้นที่สองในสามของดินแดนทั้งงหมด ชาวแคชเมียร์ทั้งสองฟากส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม

อินเดียต้องการให้จามมู-แคชเมียร์เป็นส่วนหนึ่งของอินเดียอย่างเป็นทางการและพยายามผลักดันให้นานาชาติยอมรับเส้นแบ่งเขตหรือเรียกทับศัพท์ว่าเส้นไลน์ออฟคอนโทรล ที่ขีดขึ้นมาและกองกำลังทหารประจำ ส่วนทางปากีสถานกับกลุ่มเรียกร้องเสรีภาพแคว้นแคชเมียร์ไม่ยอมเพราะต่างก็ต้องการอำนาจในการดูแลปกครองแคว้นมากกว่าที่เป็นอยู่

ในจามมู-แคชเมียร์ เกิดขบวนการต่อต้านการปกครองของอินเดียมาตั้งแต่ 19 ปีที่แล้ว ประมาณกันว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้วจากการสู้รบนี้ราวหกหมื่นคน ทางการอินเดียโทษปากีสถานว่าสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธต่อต้านอินเดีย

เมื่อเร็วๆ นี้ สมาคมผู้ปกครองของผู้ศูนย์หาย หรือเอพีดีพี ที่เมืองศรีนาคาในจามมู-แคชเมียร์ฝั่งอินเดียตีพิมพ์รายงาน เรื่องการค้นพบหลุมศพนิรนามจำนวนเกือบพันหลุมในหมู่บ้านหลายสิบแห่งทางฝั่งจามมู-แคชเมียร์ที่ปกครองโดยอินเดีย

คุณอุซเซร่า ชา หัวหน้าฝ่ายพิทักษ์สิทธิมนุษยชนที่สถาบันความสัมพันธ์แคชเมียร์ในกรุงอิสลามบัด เรียกร้องให้อินเดียเร่งทำการสอบสวนหลุมศพนิรนามเหล่านี้ โดยเปิดรับองค์กรนานาชาติที่มีความเชี่ยวชาญด้านการชันสูตรเพื่อพิสูจน์ว่า ร่างที่ถูกฝังอยู่นั้นเป็นใคร มาจากไหน

อย่างไรก็ดี ทางกองทัพอินเดียออกมาโต้ว่าเป็นที่ฝังร่างของบรรดานักรบติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลและนักรบติดอาวุธชาวต่างชาติซึ่งหมายถึงชาวปากีสถานที่เข้ามาปฏิบัติการโจมตีทหารของทางการที่เสียชีวิตในการปะทะกับทหารอินเดียจึงถือว่าการสังหารนักรบติดอาวุธเหล่านี้ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งในเรื่องนี้คุณอุซเซร่า บอกว่าในรายงานของสมาคมผู้ปกครองของคนสูญหายได้อ้างคำกล่าวของชาวบ้านในพื้นที่จามมู แคชเมียร์ว่า ผู้ที่ถูกสังหารนั้นเป็นคนแคชเมียร์ท้องถิ่นที่ถูกทางการจับตัวไป และชาวบ้านเห็นทหารนำศพเหล่านั้นมาในหมู่บ้านและสั่งให้พวกชาวบ้านช่วยกันขุดหลุมฝัง นอกจากนี้คุณอุซเซร่าบอกว่า มีคนท้องถิ่นในจามมู-แคชเมียร์ที่ปกครองโดยอินเดีย หายตัวไปแล้วร่วมแปดพันคน แต่ตัวเลขจากทางการอินเดียอ้างนั้นต่ำกว่าครึ่งหนึ่งคือสี่พันรายเท่านั้น โดยอ้างว่าที่หายตัวไปนั้น จริงๆ แล้วได้ข้ามเส้นแบ่งเขตแดนเข้าไปในปากีสถานเพื่อเข้าร่วมกับบรรดากลุ่มต่อต้านรัฐบาลอินเดียต่างหาก

คุณอุซเซร่าบอกว่า ผลพวงจากการหายตัวไปของชายชาวแคชเมียร์เหล่านี้ ทำให้ที่แม่หม้ายราวสองพันห้าร้อยกว่าคนอายุตั้งแต่ 19-35ปี ทีไม่สามารถแต่งงานใหม่ได้เพราะไม่รู้ชะตากรรมของสามีและยังหวังว่าสามีอาจจะกลับมาในวันใดวันหนึ่ง เธอบอกว่าผู้หญิงเหล่านี้ บ้างก็มีลูกแล้ว ขาดคนหาเลี้ยง ทำให้ลูกๆขาดโอกาสทางการศึกษาไปด้วย นี่ยังไม่รวมถึงความทุกข์ทรมานทางจิตใจที่เกิดขึ้นตามมาอีกด้วย

XS
SM
MD
LG