ลิ้งค์เชื่อมต่อ

บรรยากาศของวันแม่ในอเมริกา


ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน สิ่งหนึ่งที่สังเกตุเห็นตามร้านรวงต่างๆ คือป้ายเชิญชวนให้ซื้อสินค้า เพื่อเป็นของขวัญในวันแม่ ร้านขายเพชรหรือเครื่องประดับต่างๆ ในห้างแห่งหนึ่ง คนขายได้แจกโบรชัวร์ว่าด้วยเครื่องประดับสำหรับวันแม่โดยเฉพาะ ซึ่งในโบรชัวร์ดังกล่าว อัดแน่นไปด้วยเครื่องประดับหลากหลาย ทั้งแหวน สร้อยคอ ตุ้มหูเพชร แถมยังมีการโฆษณาว่า ลดราคาพิเศษเพื่อวันแม่เท่านั้น

ถ้าเป็นในประเทศไทย พอถึงวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติ เราจะเห็นลูกๆ มอบของขวัญให้คุณแม่ ซึ่งมักมีดอกมะลิเป็นส่วนประกอบ แต่ในอเมริกา ปรากฎว่ามีการเชิญชวนให้ซื้อเครื่องประดับหรือเครื่องเพชรมากเหลือเกิน สอบถามผู้รู้ ได้ความว่า ที่โฆษณากันโครมๆ นี่ เชิญชวนให้คุณพ่อซื้อให้คุณแม่ต่างหาก

นอกจากนั้น จะเห็นโฆษณาเรื่องของขวัญสำหรับวันแม่ อยู่เยอะแยะไปหมด ทั้งดอกไม้ คุ๊กกี้ หรือแม้แต่ส่งบทกวีทางอีคาร์ด และการซื้อโทรศัพท์มือถือให้คุณแม่ ไม่เว้นแม้แต่การเชิญชวนให้ฟังวิทยุที่เรียกว่า Mother’s Day Radio

ประเทศต่างๆ ทั่วโลก กว่า 144 ประเทศ เฉลิมฉลองวันแม่ในวันที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสภาพทางสังคมและวัฒนธรรม วันแม่ในอเมริกา ถูกกำหนดให้เป็นวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม ซึ่งปีนี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม

ย้อนหลังไปในประวัติศาสตร์ ประธานาธิบดี Woodrow Wilson กำหนดให้มีวันแม่ขึ้นก็เพื่อให้เกียรติกับคุณแม่ผู้สูญเสียลูกชายในสงคราม ตั้งแต่เมื่อปี คศ. 1914 หรือเมื่อ 94 ปีที่ผ่านมา แค่เพียง 9 ปีหลังประกาศวันแม่อย่างเป็นทางการในอเมริกา ผลประโยชน์ทางธุรกิจได้เข้ามาปะปนกับการฉลองวันแม่ จนเป็นโอกาส ของการเสนอขายสินค้าและบริการมากกว่าจะระลึกถึงพระคุณของคุณแม่จริงๆ แม้กระทั่งสมาคมภัตตาคารแห่งชาติยังออกมายอมรับว่า วันแม่เป็นวันยอดนิยมที่จะพาคุณแม่ไปทานข้าวนอกบ้านจนร้านอาหารแน่นไปตามๆ กัน

เนื่องจากแต่ละประเทศฉลองวันแม่ในโอกาสต่างๆ กัน ชาวนอร์เวย์จะได้ฉลองวันแม่ก่อนใครเพื่อน เพราะวันแม่ของเค้าคือวันอาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนอินโดนีเซียฉลองปิดท้ายปี เพราะวันแม่คือวันที่ 22 ธันวาคม และที่แปลกที่สุดก็เห็นจะเป็นประเทศมองโกเลีย เพราะฉลองวันแม่กันถึงปีละสองครั้ง

แต่ไม่ว่าจะเป็นชาติใด เรื่องวันแม่ยังเป็นวันที่มีความสำคัญอยู่เสมอ เพราะเราทุกคนเกิดขึ้นมาได้ก็เพราะคุณแม่ของเรา

XS
SM
MD
LG