ในหมู่เกาะตามแถบชายฝั่งของรัฐเซาท์ แคโรไลน่า จอร์เจีย และฟลอริดา มีชนกลุ่มน้อยที่เรียกตนเองว่า กลุ่มกัลลาห์ หรือกลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา ที่เชื่อกันว่าเป็นสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดในอเมริกาอาศัยอยู่
ชนกลุ่มกัลลาห์ หรือเรียกกันว่ากลุ่มกีชี่ในบางส่วนของรัฐทางใต้ของสหรัฐฯ เป็นกลุ่มลูกหลานของทาสชาวแอฟริกันในอดีต พวกเขาจะพูดภาษาอังกฤษปนกับภาษาแอฟริกัน และจนทุกวันนี้พวกเขายังอนุรักษ์วิถีชีวิตเดิมๆ ของพวกเขาเอาไว้
ที่เกาะซาเพโล ในรัฐจอร์เจีย ก็มีชุมชนกัลลาห์น้อยๆ อาศัยอยู่ โดยแต่ละปีจะมีประเพณีเฉลิมฉลองของชุมชนนี้ ซึ่งจัดต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 13 ปีแล้ว เพื่อสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป อย่างเช่นการสานแหและการสานตะกร้าหญ้า ก็เป็นประเพณีของชนเผ่าแอฟริกัน ที่บรรพบุรุษกัลลาห์ได้ถ่ายทอดสู่ลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่น รวมทั้งภาษาและวัฒนธรรมอื่นๆ อีกด้วย
คุณโรเบิร์ต ซึ่งเป็นชาวประมงบอกว่า ศิลปะการสานแหมาจากกลุ่มทาสที่เดินทางมาจากแอฟริกา ส่วนคุณแมรี่ ช่างสานตะกร้าบอกว่าความรู้นี้ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาเป็นเวลานานแล้ว
นอกจากนี้ ชาวกัลลาห์ยังพูดภาษาอังกฤษที่ใช้หลักไวยากรณ์ และโครงสร้างประ โยคตามภาษาแอฟริกันด้วย
คุณคอร์นีเลีย เบลี่ย์ ชาวกัลล่าห์บอกว่า ภาษาของเขาเป็นภาษาที่ผสมกันระหว่างภาษาอังกฤษ แอฟริกัน และฝรั่งเศส แต่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ถูกๆ แต่เป็นภาษาแบบของพวกเขาเอง
นอกจากนี้ ที่เกาะเซนต์ ฮะลีน่า นอกชายฝั่งรัฐเซาท์ แคโรไลน่า ยังมีชุมชนกัลลาห์ อีกหนึ่งชุมชน แต่คุณมาร์เคว็ดต้า กู๊ดไวน์ หรือที่รู้จักกันในนามควีนเคว็ด ผู้ก่อตั้งพันธมิตรเกาะกัลลาห์-กิชี่ บอกว่า การท่องเที่ยวและการก่อสร้างรีสอร์ตในหมู่เกาะที่พวกเธออาศัยอยู่ ทำให้วัฒนธรรมดั้งเดิมเริ่มจางหาย โดยขณะนี้เหลือชุมชนเข้มแข็งเพียงแค่ 1 หมื่นคนเท่านั้น พวกเธอจึงต้องต่อสู้เพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรม ดั้งเดิมเอาไว้ ในที่สุดรัฐสภาสหรัฐฯ ได้ออกกฎหมายเขตมรดกวัฒนธรรมกัลลาห์-กีชี่ ขึ้นมาในปี 2006 และให้เงินทุนสนับสนุนการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมในพื้นที่นี้ไว้
ควีนเคว็ด บอกว่าถ้าเราไม่รู้ว่าเรามาจากไหน เราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปที่ไหน ดังนั้นดินแดนนี้เป็นดินแดนของพวกเธอ เพราะหยาดเหงื่อ แรงงาน และ คราบน้ำตาของ บรรพบุรุษไหลหลั่งอยู่ที่นี่ กระแสน้ำที่ล้อมรอบพวกเธอไว้ ก็คือกระแสเลือดของพวกเธอ ซึ่งไม่อาจให้พลัดพรากจากกันไปได้