ลิ้งค์เชื่อมต่อ

พิธีกรรมขริบอวัยวะเพศหญิงในอาฟริกา


การตัดอวัยวะเพศหญิง หรือที่มักจะเรียกกันว่าการขริบอวัยวะเพศหญิง เป็นสิ่งที่ปฏิบัติสืบทอด กันมาทั่วอาฟริกา แม้ว่าพิธีกรรมที่ว่านี้จะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่ก็ยังพบเห็นได้ทั่วไปในประ เทศโซมาเลีย หรือสาธารณรัฐโซมาลี ที่ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และบรรดานักรณรงค์ทั้งหลาย ที่กำลังดำเนินงานเพื่อยุติพิธีกรรมนี้

เชื่อกันว่ามีเด็กหญิง และผู้หญิง 97% ในโซมาเลียที่ผ่านการขริบอวัยวะเพศ วิธีการขริบ จะทำโดย การเฉือนอวัยวะเพศด้านนอกบางส่วน หรือทั้งหมด และเย็บรวมไว้ด้วยกัน โดยเหลือช่องเล็กๆ ไว้ สำหรับให้เลือดประจำเดือน และปัสสาวะไหลออกมาได้เท่านั้น

การขริบอวัยวะเพศเป็นพิธีกรรมที่เก่าแก่ในโซมาเลีย และทั่วทั้งทวีปอาฟริกา

ฮามิโล เอลมิ เวห์ลีเย ผู้จัดการโครงการความตระหนักเรื่องการขริบอวัยวะเพศหญิง หรือ FGM Awareness ที่ศูนย์บำบัดระหว่างประเทศ (Care International) ซึ่งมุ่งโน้มน้าวชุมชนต่างๆ ให้ยก เลิกประเพณีขริบอวัยวะเพศนี้ กล่าวว่ามีเหตุผลมากมายหลายประการ ที่ทำให้ผู้คนยึดถือประ เพณีนี้ รวมถึงการเตรียมความพร้อมให้ผู้หญิงสำหรับการแต่งงาน

คุณ Hamilo กล่าวว่า การที่ต้องขริบอวัยวะเพศนั้น เป็นเพราะความเชื่อที่ว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ขริบ อวัยวะเพศอาจมีอารมณ์ทางเพศเมื่อออกไปข้างนอก จนอาจไปขืนใจผู้ชายได้ จึงต้องตัดต้นตอจุด ที่ถือว่าไวต่อความรู้สึกทางเพศนั้นทิ้งเสีย

ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ผ่านการขริบอวัยวะเพศมักจะมีปัญหาด้านสุขภาพหลายประการ รวมถึงการ เลือดออกอย่างรุนแรง กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นหมัน การเกิดโรคแทรกซ้อนตอนคลอดลูกจน ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อเด็กทารกได้

คุณเอ็ดนา อาดาน อีสเมล เป็นผู้ก่อตั้งสถานผดุงครรภ์ใน Hargeisa เมืองหลวงของโซมาเลีย และ เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ซึ่งทำให้ชาวโลกหันมาให้ความสนใจในเรื่องพิธีกรรมขริบ อวัยวะเพศหญิง คุณเอ็ดนาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงอายุ 12 ขวบคนหนึ่ง ซึ่งช่องคลอดที่ถูก เย็บติดกันไว้นั้น มีขนาดเล็กเกินไป

คุณเอ็ดนากล่าวว่า ช่องท้องของเด็กคนนั้นบวม และเกิดอาการเจ็บปวด เมื่อแพทย์อัตราซาวด์ดู พบว่าเด็กมีประจำเดือน และเลือดคั่งอยู่ในร่างกายตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เธอบอกด้วย ว่าช่องที่เปิดไว้เล็กเกินไปนั้น อาจทำให้ชีวิตการแต่งงานมีปัญหาได้ด้วย

บรรดานักรณรงค์กล่าวว่าผู้คนหันมาพูดคุยอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการขริบอวัยวะเพศหญิง และ อันตรายที่เกิดตามมากันมากขึ้น และมีผู้หญิงบางคนที่ไม่ยอมให้ตัวเอง และบุตรสาวของพวก เธอเข้ารับพิธีกรรมนี้

คุณฮามิโล เอลมิ เวห์ลีเย แห่งศูนย์บำบัดระหว่างประเทศกล่าวว่า พวกเธอได้สอบถามชุมชนต่างๆ ถึงโรคแทรกซ้อนที่เกิดหลังการขริบอวัยวะเพศหญิง เพื่อหาทางแก้ไข คนส่วนใหญ่บอกว่า ควรจะ หยุดพิธีกรรมนี้ ในขณะที่บางคนบอกว่าอย่างน้อยก็ควรจะมีศูนย์อนามัยไว้สำหรับทำพิธีกรรมนี้ ส่วนผู้ที่ต้องการให้มีพิธีกรรมนี้ต่อไป กล่าวว่าจะต้องฝึกฝนหมอตำแยที่มีคุณสมบัติเหมาะสม อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้ที่ใช้เครื่องมือที่สะอาด เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี หรือการติดเชื้อจากการ ถ่ายเลือด

อย่างไรก็ตามคุณเอ็ดนา อาดาน อีเมล และคนอื่นๆ บอกว่ามีผู้หญิงและเด็กจำนวนมากที่จะต้อง ทนทุกข์ทรมาน จนกว่าความเชื่อเกี่ยวกับพิธีกรรมดังกล่าวนี้จะเปลี่ยนแปลงไป


XS
SM
MD
LG