องค์การอนามัยโลกคาดประมาณว่า มีผู้คนราว 180 ล้านคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และจำนวนดังกล่าวนี้อาจจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวภายในปี พศ.2573 โรคเบาหวานที่พบบ่อยมักเกี่ยวข้องกับการเป็นโรคอ้วน และขาดการออกกำลังกาย
สมาคมโรคเบาหวานแห่งอเมริการายงานว่า มีคนอเมริกันจำนวนมากถึง 21 ล้านคนที่ป่วยเป็นโรค เบาหวาน สาเหตุมาจากการที่ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สมาคมนี้กล่าวว่า มีผู้คนอีก 6 ล้านคนที่อาจจะป่วยเป็นโรคนี้ แต่ยังไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัย โรคเบาหวานเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อคนทุกวัย แม้กระทั่งในหมู่เด็กด้วย
คุณวิลเลี่ยม รัสเซล ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเบาหวานที่โรงพยาบาลเด็กแวนเดอร์บิลท์ ในเมืองแนชวิล รัฐเทนเนสซี่ กล่าวว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ในสหรัฐที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานถึงวันละ 4 หมื่นคน
ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 นั้น ร่างกายไม่สามารถสร้างอินซูลินให้เพียงพอ ต้องอาศัยการฉีดอินซูลินทุกๆ วัน
ส่วนโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อย เกิดขึ้นเมื่อร่างกายดื้อต่ออินซูลิน หากไม่มีอินซูลิน ร่างกายก็ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาล ซึ่งอาจจะทำให้หลอดเลือดถูกทำลายได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์กล่าวว่า เนื่องจากโรคเบาหวานเป็นโรคที่เรื้อรัง อาจทำให้เกิดความสูญเสียทางด้านกายภาพ และด้านการเงินอย่างมหาศาล
โรคเบาหวานอาจทำให้ตาบอด ไตทำงานผิดปกติ อาจต้องตัดขา เป็นโรคหัวใจ หรืออาจทำให้เป็นโรคลมปัจ จุบันได้ อาการดังกล่าวนี้ล้วนแล้วแต่ต้องการการบำบัดรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเสียค่าใช้จ่ายสูง
สมาคมโรคเบาหวานแห่งอเมริการายงานว่า สหรัฐเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เกิดโรคแทรกซ้อนราว 116,000 ล้านดอลล่าร์
คุณแอน ไบรท์ ประธานสมาคมโรคเบาหวานแห่งอเมริกากล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า โรคเบาหวาน ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศนี้
ในประเทศจีน องค์การอนามัยโลกคาดประมาณว่า ค่าใช้จ่ายในการรักษา และในการที่ต้องสูญเสียความ สามารถในการทำงานของลูกจ้างที่เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคลมปัจจุบัน อาจสูงกว่า 500,000 ล้านดอลล่าร์ ภายในปี พศ. 2558
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์กล่าวว่า มนุษย์เราอาจสามารถควบคุมโรคเบาหวานได้ ด้วยการตรวจเลือด ควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายทุกๆ วัน และผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้เลิกสูบบุหรี่ และลดปริมาณคาเฟอีน ที่บริโภคอีกด้วย
การศึกษาครั้งใหม่ที่ศูนย์การแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยดู๊ก ที่เมืองเดอแรม รัฐนอร์ธ แคโรไลน่า กล่าวว่าการดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นถึง 8%