การเลือกตั้งขั้นต้นหรือที่เรียกว่า primary election ในนิวยอร์คและมลรัฐอื่นๆ อีกกว่า 20 มลรัฐ กำลังจะมีขึ้นในวันอังคารนี้ อาจารย์อุษา อังสุนันทวิวัฒน์ บรรณารักษ์ประจำห้องสมุดของ Teachers College มหาวิทยาลัย Columbia ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองในอเมริกาอย่างใกล้ชิด อธิบายความสำคัญของการเลือกตั้งขั้นต้นแก่ผู้สื่อข่าววีโอเอ
การเลือกตั้งขั้นต้นหรือที่เรียกว่า primary election ในอเมริกานี้ ยังไม่ใช่การเลือกตั้งครั้งใหญ่ ที่จะชี้ขาดว่า ใครจะได้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐคนต่อไป แต่เป็นการลงคะแนนเสียงเลือกตัวแทนพรรคเพื่อเข้าแข่งขันในการ เลือกตั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนนี้ การบริหารประเทศของอเมริกา มีพรรคการเมืองใหญ่อยู่สองพรรค คือเดโมแครตกับรีพับลิกัน ทั้งสองพรรคนี้มีนโยบายแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คือรีพับลิกัน จะมีนโยบายเป็นอนุรักษ์นิยม เรียกว่า conservative ในภาษาอัง กฤษ ส่วนพรรคเดโมแครต มีนโยบายเป็นเสรีนิยม หรือ liberal เพราะการปกครองของรัฐบาลอเมริ กัน จำเป็นที่จะต้องมีทั้งสองพรรคนี้ เพื่อคานอำนาจกันในการบริหารประเทศ ถ้าพรรคใดมีสมาชิกในรัฐสภามากกว่า การผ่านกฏหมายต่างๆออกมาใช้ในการบริหารประเทศ ก็จะเป็นไปตามนโยบายของพรรคนั้น ดังนั้นการที่ทั้งสองพรรคพยายามหาตัวแทนของพรรค ที่มีคุณสมบัติดีเด่น และมีโอ กาสมากที่จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ จึงเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง และในวันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการลงคะแนนเสียงในรัฐต่างๆ ถึง 22 รัฐ เพื่อ เป็นการชี้ขาดว่าจะได้ใครเป็นตัวแทนของพรรคแต่ละพรรคเข้าแข่งขันในวันเลือกตั้งใหญ่
ถ้าถามว่า ทำไมจึงมีการเลือกตั้งขั้นต้น คำตอบก็คือ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รู้จักผู้สมัครเข้าแข่ง ขันดีขึ้น และผู้แข่งขันจะได้แสดงความสามารถในการชักจูงใจประชาชน ให้เข้าใจในนโยบายของพรรคและเจต นาที่ตนเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้นำของประเทศ
อาจารย์อุษา ได้กล่าวถึงบทบาทในการเสนอข่าวของสื่อมวลชนในอเมริกาว่า สื่อมวลชนทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นวิทยุโทรทัศน์หรือ หนังสือพิมพ์หรืออินเทอร์เน็ต มีบทบาทที่สำคัญมากในการช่วยสื่อสารความคิดของผู้สมัครเข้าแข่งขันและนโยบายของพรรคการเมืองไปสู่ประชาชน ดังนั้นสื่อมวลชนที่ดี และมีจรรยาบรรณแห่งการประ กอบอาชีพนี้ จะต้องวางตัวเป็นกลางและเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง แต่เท่าที่สังเกตการเสนอข่าวของสื่อมวลชนในการเลือกตั้งที่ผ่านมา การเสนอข่าวบางช่องก็มีความลำเอียงตามความชอบของผู้เสนอข่าว บางครั้งถึงกับมีการคาดการณ์ล่วงหน้าว่า ใครจะได้คะแนนเสียงมากกว่ากัน ซึ่งทำให้การเสนอข่าวมีโอกาสผิดพลาด และไม่น่าเชื่อถือ การเลือกตั้งขั้นต้นนี้เริ่มมาแล้ว 4-5 รัฐไม่พร้อมกัน ในแต่ละรัฐก็จะมีการหาเสียงและโต้วาทีของผู้เข้าแข่งขัน ทั้งระหว่างพรรคเดียวกันหรือต่างพรรค เพื่อให้ประชาชนได้เห็นบุคคลิกและความสามารถของผู้เข้าแข่งขัน
หลังจากการโต้วาทีก็จะมีผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองหรือนักวิเคราะห์ข่าวทางการเมืองมาให้การวิพากษ์วิจารณ์บุคคลกิและความคิดของผู้เข้าแข่งขัน ถ้าหากว่าผู้เข้าแข่งขันสามารถพูดจูงใจประ ชาชนได้มาก ก็จะมีผู้ให้การรับรอง เรียกว่า endorse อย่างเป็นทางการจากบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือผู้แทนจากหน่วยงานทั้งของรัฐหรือเอก ชน เช่นวุฒิสมาชิกเอ๊ดเวิร์ค เคนเนดี้ และบุตรสาวของอดีตประธานาธิบดจอห์นเอฟเคนเนดี้ ได้รับรองบารัค โอบาม่าแห่งพรรคเดโมแครต และหนังสือพืมพ์ลองแองเจลิสทายมส์ ได้รับรองจอห์นแม็คเคนแห่งพรรครีพับลิกันเป็นต้น ข่าวการรับรองผู้เข้าเเข่งขัน จะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นระยะเพื่อให้ประชาชนได้รู้ว่าใครมีโอกาสเหนือกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะเลือกผู้แทนของพรรคที่ตนสังกัด จะเปลี่ยนใจไปเลือกผู้แข่งขันต่างพรรคก็ต่อเมื่อเห็นว่าผู้สมัครเข้าแข่งขันต่างพรรค มีความดีเด่นถูกใจที่สุด ดังนั้นบทบาทของสื่อมวลชนในการเสนอข่าว จะช่วยในการตัดสินใจของประชาชนเป็นอย่างมาก และช่วยผู้สมัครเข้าแข่งขันด้วย ถ้าผู้เข้าแข่งขั้นเลือกสื่อมวลชนที่ดีและเหมาะสมในการหาเสียง ก็จะได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนมากขึ้นอย่างรวด เร็ว เช่นการกระจายข่าวขอการสนับสนุนทางอินเทอร์เน็ต จะได้รับการให้ความสนใจทางการเมืองจากคนรุ่นใหม่มาก และผู้เข้าแข่งขันจะได้รับความสนับสนุนอย่างรวดเร็วเกินความคาดหมาย ถ้าหากรู้จักเลือกสื่อและใช้กลยุทธ์ในการหาเสียงที่ดี