นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายยาสุโอะ ฟุกุดะ สิ้นสุดการเดินทางเยือนประเทศจีนเป็นเวลา 4 วันแล้ว ซึ่งการเดินทางเยือนครั้งนี้ช่วยให้ความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศบรรเทาเบาบางลงได้บ้าง
วันสุดท้ายของการเดินทางเยือนประเทศจีน นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายยาสุโอะ ฟุกุดะ เดินทางเยี่ยมบ้านเเกิดของขงจื้อ นักปราชญ์ชาวจีนซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของทั้งจีนและญี่ปุ่น การเดินทางเยือนครั้งนี้มีเป้า หมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์และเน้นให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่คล้ายกันของทั้งสองประ เทศ
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าการเยือนประเทศจีนของผู้นำญี่ปุ่นครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี และนับเป็นความก้าวหน้าด้านความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้จีนยกเลิกการเจร จาระดับสูงทางการทูตกับญี่ปุ่นในช่วงระหว่างปี ค.ศ.2001-2006 ในสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรียูนิชิโร่ โคอิสุมิ เนื่องจากในช่วงระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายยูนิชิโร่ โคอิสุมิได้เดินทางไปเยี่ยมวิหารที่รำลึกทหารผ่านศึกญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีอาชญากรสงครามหลายคนรวมอยู่ด้วย ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากให้แก่จีน ในขณะที่นายกรัฐมนตรียาสุโอะ ฟุกุดะประ กาศไว้แล้วว่าจะไม่ไปเยี่ยมเยือนวิหารดังกล่าวในขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่น
คุณลี มิงเจียง ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษาจาก S.Rajaratnam School of International Studies ในสิงคโปร์ให้ความเห็นว่า นายกรัฐมนตรีฟุกุดะ กำลังเดินไปถูกทางในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศจีนใหม่
นายกรัฐมนตรียาสุโอะ ฟุกุดะพยายามอย่างยิ่งที่จะริ้อฟื้นความสัมพันธ์กับจีน ทั้งเดินทางไปเยี่ยมเด็กนักเรียนจีนตามโรงเรียนต่างๆ เดินทางเยือนโรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้าในประเทศจีนแม้กระ ทั่งสวมชุดนักกีฬาเบสบอลเพื่อเล่นเบสบอลกับนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียปาว ทางผู้นำญี่ปุ่นอธิบายว่าการเดินทางเยือนครั้งนี้มีความสำคัญมาก และว่าทั้งสองประเทศจะได้รับประโยชน์มากมายหากร่วมจับมือแล้วเดินไปด้วยกัน แทนที่จะเผชิญหน้ากันเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งคุณลี มิงเจียงผู้เชี่ยวชาญจากสิงคโปร์ก็เห็นด้วยในเรื่องนี้
คุณลี มิงเจียงกล่าวว่า จีนต้องการให้ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียมีความมั่นคงเพื่อรัฐบาลจะได้พุ่งความสนใจไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศแต่เพียงอย่างเดียว และสำหรับญี่ ปุ่นนั้น ในขณะที่ปัจจุบันจีนมีอำนาจเพิ่มขึ้น ญี่ปุ่นจึงไม่ต้องการเป็นศัตรูหรือมีปัญหากับจีนอีกต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญผู้นี้ยังบอกอีกว่า เวลานี้ญี่ปุ่นคือประเทศคู่ค้าสำคัญที่สุดของจีน และเนื่องจากระบบเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ทำให้ทั้งสองประเทศจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทั้งด้านการเมืองและการทหาร ในด้านการทหารนั้น คุณลีบอกว่าทั้งจีนและญี่ปุ่นจะได้รับประโยชน์หากมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันมากขึ้น ทางญี่ปุ่นต้องการให้จีนสนับสนุนเกี่ยวกับประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือ ในขณะที่จีนเองก็ต้องการให้ญี่ปุ่นผ่อนคลายความร่วมมือทางการทหารกับสหรัฐลงบ้าง ครับ และสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศครั้งต่อไปจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2008 ซึ่งประธานาธิบดีจีน นายหู จิ่นเทามีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นบ้าง