ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า โรคเบาหวานได้ลุกลามไปถึงขั้นการเป็นโรคระบาดในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งในสหรัฐด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์กล่าวว่า โรคเบาหวานส่งผลกระทบต่อผู้คนกว่า 240 ล้านคนทั่วโลก และยังเพิ่มจำ นวนขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วอีกด้วย
แพทย์หญิงฟรานซีน คัฟแมน แห่งโรงพยาบาลเด็กลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นประธานโครงการโรคเบาหวานในเด็ก กล่าวว่ามีเด็กจำนวนมากเป็นโรคเบาหวานชนิดที่สอง ที่แต่ก่อนเคยเป็นโรคของผู้ใหญ่เท่านั้น เธอบอกว่าโรคเบาหวานชนิดที่สองมีสาเหตุมาจากทางเลือกของรูปแบบการดำเนินชีวิตที่มีมากมาย การรับประทานอาหารที่ให้พลังงานและไขมันสูงเกินไป และออกกำลังกายน้อยเกินไป
คุณหมอฟรานซีน คัฟแมนได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบันทึกสารคดีสำหรับช่อง Discovery Health Channel
คุณหมอคัฟแมนเล่าว่าเธอได้ประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการเดินทางไปรอบโลก เพื่อค้นหาผู้ป่วยเป็นโรคเบา หวาน ค้นหาบรรดานักรบผู้เข้าร่วมสมรภูมิในการต่อต้านโรคเบาหวาน เช่นแพทย์ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์ นักโภชนาการ ผู้ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาโรคเบาหวานในอินเดีย ออสเตรเลีย และอาฟริกาใต้
โรคเบาหวานชนิดที่สองนั้นแตกต่างจากโรคเบาหวานชนิดที่หนึ่งนะคะ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่สองไม่จำเป็นต้องฉีดอินซูลิน แต่ใช้วิธีควบคุมโภชนาการ การบำบัดรักษา และการตรวจสุขภาพแทน การปล่อยทิ้งไว้โดยที่ไม่ได้ตรวจ โรคเบาหวานทั้งสองชนิดสามารถทำให้ตาบอด เสียแขนหรือขา ระบบประสาทถูกทำลาย ไตวาย และยังอาจทำให้เกิดโรคหัวใจ หรือเส้นโลหิตในสมองอุดตันได้
โรคเบาหวานชนิดที่สองเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ คุณหมอคัฟแมนกล่าวว่า การที่โรคนี้กำลังแพร่ระบาดเป็นเพราะ คนในประเทศกำลังพัฒนาอย่างเช่นอินเดีย หันมาใช้ชีวิตแบบคนชั้นกลางกันมากขึ้น
แพทย์หญิงฟรานซีน คัฟแมนกล่าวว่า การใช้ชีวิตแบบนั้น ทำให้ผู้คนนั่งอยู่ในรถกันทั้งวัน มีจานดาวเทียมที่บ้าน รับประทานอาหารแบบตะวันตกกันมากขึ้น ทำให้มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน และเป็นโรคเบาหวานในที่สุด และว่าปัจจุบันโรคเบาหวานชนิดที่สอง กำลังแพร่ระบาดอยู่ในอาฟริกาใต้ด้วย
คุณหมอคัฟแมนกล่าวต่อไปว่า ตามเขตชุมชนในอาฟริกาใต้ ผู้คนล้วนมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน มีอาหารให้รับประทานมากกว่าในอดีต ผู้คนขึ้นรถประจำทางไปทำงาน จึงไม่มีกิจกรรมที่ต้องออกกำลังกายเหมือนที่ผ่านมา เธอบอกว่าหนทางแก้ไขนั้นต้องทำเป็นรายประเทศ หรือเป็นรายบุคคล อย่างในประเทศบราซิล ศูนย์การแพทย์แห่งหนึ่งส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกไปให้ความรู้แก่บรรดาผู้ป่วย และสนับสนุนให้เต้น เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ออกกำลังกายกันมากขึ้น ส่วนที่อินเดีย มีการส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปตรวจสุขภาพผู้คนตามหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม โรคเบาหวานสามารถควบคุมได้ และโรคเบาหวานชนิดที่สองนั้น ถึงแม้ว่าจะกำลังแพร่ระบาดอยู่ แต่ก็สามารถป้องกันได้
