เทคนิคการแสดงภาพทางการแพทย์ และระบบคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้น ช่วยให้แพทย์สามารถ ตรวจพบโรคหัวใจได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และดีขึ้นอย่างมาก
นายแพทย์เจมส์ เอิร์ลส ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ที่บริษัท Fairfax Radiological Consultants ชานกรุงวอชิงตัน อธิบายเกี่ยวกับเทคนิคการแสดงภาพอวัยวะภายในร่างกายผู้ป่วย โดยการใช้พ่อ ตาเป็นตัวอย่าง พ่อตาของเขาชื่อคุณแกรี่ ฮิกก์ส เป็นผู้ที่มีมีระดับไขมันในเลือดสูง และมีประวัติ คนในครอบครัวที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ
ด้วยระบบการถ่ายภาพแบบใหม่ที่เรียกว่า SnapShot Pulse ผนวกกับเทคนิคการสแกนหรือการจับภาพทางการแพทย์ ทำให้ดร.เจมส์ ได้ภาพหัวใจของ ผู้ป่วยที่สมบูรณ์ ภายในเวลาไม่กี่วินาที ดร.เจมส์ ได้ภาพหัวใจของคุณแกรี่ ฮิกก์ส ถึง 200 ภาพ กระบวนการ พิเศษของคอมพิวเตอร์ทำให้ภาพเหล่านั้นเป็นภาพ 3 มิติ
คุณหมอเจมส์ เอิร์ลอธิบายว่า ภาพ 3 มิติจะช่วยให้แพทย์สามารถมองเข้าไปข้างในหลอด เลือด ว่ามีการอุดตันหรือไม่
เทคโนโลยีที่ใช้สแกน และถ่ายภาพหัวใจมีออกมาใช้งานได้ราว 5 ปีแล้ว แต่สิ่งใหม่ในปีนี้คือ การปรับปรุงเพิ่มเติมซอฟท์แวร์ที่ทำให้ภาพมีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยใช้การฉายรังสีน้อยลง การถูกรังสีมากเกินไปเพิ่มความ เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งได้ กระบวนการถ่ายภาพแบบ SnapShot Pulse นี้เป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ป่วย และแพทย์
นายแพทย์เจมส์ เอิร์ลสบอกว่า ผู้ป่วยได้ประโยชน์จากกระบวนการถ่ายภาพแบบนี้ ตรงที่มีการใช้รัง สีน้อยลง ในขณะที่แพทย์ได้ภาพที่มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจ วินิจฉัยได้ดีขึ้น หรือสามารถหาจุดเล็กๆ ที่มีการอุดตัน ซึ่งยังไม่เคยทำได้ในอดีต
เทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบ SnapShot Pulse เพิ่งจะมีสำหรับให้ใช้กันได้ทั่วโลก เมื่อเดือนมิถุนายนนี้เอง
คุณหมอเจมส์ เอิร์ลสกล่าวว่าสิ่งที่สำคัญก็คือ การถ่ายภาพแบบนี้ เป็นวิธีการตรวจง่ายๆ ไม่ทำให้ผู้ป่วยเจ็บตัว และสามารถบอกได้ว่าผู้ป่วยเป็น โรคหัวใจหรือไม่ หรือเป็นถึงขั้นไหนแล้ว นับว่าเป็นการปฏิวัติด้านการตรวจโรคหัวใจ และเป็นเครื่องมือสำหรับการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง
สำหรับคุณแกรี่ ฮิกก์สพ่อตาของ ดร.เจมส์ จากการตรวจ พบว่ามีหินปูนที่ไม่เป็นอันตราย ในปริมาณ เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งทำให้เขากลับบ้านได้ โดยทราบว่ายังมีหัวใจที่แข็งแรง