ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การผลิตไฟฉายพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งไปยังประเทศกำลังพัฒนา


ในพื้นที่ต่างๆ ที่ยากจนที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามหมู่บ้านในชนบท และตามแหล่งเสื่อมโทรม ในเมืองที่อยู่ห่างไกล ผู้คนจะถูกจำกัดอยู่แต่ในบ้านของตนในยามค่ำคืน แสงสว่างที่คนเหล่านั้นมี มักจะมาจากเปลวไฟหรือตะเกียงน้ำมันก๊าด ซึ่งทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ

แต่ผู้ประกอบการรายหนึ่ง จากนครฮิวสตัน รัฐเท็กซัส กำลังพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ ด้วยการแจกจ่ายไฟฉายพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศกำลังพัฒนา

โครงการไฟฉายพลังงานแสงอาทิตย์เริ่มมีขึ้น หลายปีมาแล้วในอาฟริกา เมื่อตอนที่คุณมาร์ค เบนท์ อดีตนักการทูตสหรัฐไปทำงานกับบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่ง เขาเห็นคนยากจนในหมู่บ้านตามชนบท จำนวนมาก อยู่ในสภาพเหมือนติดกับ เพราะความมืดมิดในยามค่ำคืน ทำให้ไม่สามารถอ่านหนังสือ ทำงาน หรือออกไปไหนมาไหนไกลจากบ้าน เพราะไม่ทราบว่ามีอะไรอยู่ภายนอกบ้าง เรียกได้ว่าการ ปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ทางสังคมต้องหยุดลง เมื่อพระอาทิตย์ตกดินเลยทีเดียว

ทางออกของคุณมาร์ค เบนท์ก็คือ การผลิตไฟฉายที่มีแผงรับพลังงานแสงอาทิตย์อยู่ตรง ด้ามจับด้านหนึ่ง เพื่อเก็บพลังงานจากดวงอาทิตย์

คุณมาร์ค เบนท์กล่าวว่า แผงรับแสงอาทิตย์ของไฟฉายนี้ จะผลิตไฟฟ้าเมื่อแสงอาทิตย์มากระทบ จากนั้นพลังงานไฟฟ้าจะถูกเก็บไว้ในไฟฉาย โดยจะอยู่ในถ่านแบตเตอรี่ขนาด 2 เอที่สามารถ ชาร์จไฟใหม่ได้ พอตกกลางคืน พลังงานที่เก็บสะสมไว้ ก็จะถูกถ่ายเทไปยังหลอดไฟฉายเพื่อให้แสง สว่าง

หลอดไฟฉายที่เรียกว่า LED ให้แสงสว่างเพียงพอสำหรับการอ่านหนังสือ หรือมองหาทางเดิน ในที่มืด หลอดไฟดังกล่าวไม่ได้สร้างความร้อนมากมาย และแสงไม่ได้จ้าถึงกับทำให้เคืองตาด้วย เมื่อเพียงไม่กี่ปีมานี้เอง หลอดไฟ LED มีราคาแพงเกินไปที่จะนำมาใช้กับไฟฉายแบบพิเศษนี้ แต่ด้วยนวัตกรรม และประสิทธิภาพในการผลิต ช่วยให้สามารถซื้อหาหลอดไฟดังกล่าวมาใช้ได้ง่ายขึ้น

อดีตนักการทูตสหรัฐผู้นี้กล่าวว่า ประโยชน์สำคัญอย่างหนึ่งของการใช้ไฟฉายพลังแสงอาทิตย์ ก็คือ การลดการใช้ฟืนในการก่อไฟ และการใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าด ซึ่งทำให้เกิดควันพิษ และก๊าซในเรือนกระจกปลูกพืช

คุณมาร์ค เบนท์กล่าวว่า ตะเกียงน้ำมันก๊าด 1 ดวงขับก๊าซคาร์บอนออกมาถึง 100 กิโลกรัมในแต่ละปี ที่จริงอาจจะดูไม่มากนัก แต่เมื่อลองพิจารณาดูว่า ประชากร 1 ใน 3 ของโลกหรือราว 2,000 ล้านคน ต้องอาศัยแสงสว่างจากตะเกียงน้ำมันในยามค่ำคืน ปริมาณคาร์บอนก็จะถูกขับออกมามากมายมหา ศาลเลยทีเดียว

ด้วยการสนับสนุนทางด้านการเงินจากบริษัท Exxon Mobil และบริษัทผู้ให้บริจาคอีก 2-3 บริษัท ทำให้ คุณมาร์ค เบนท์สามารถนำไฟฉายพลังงานแสงอาทิตย์ของเขาเข้าไปเผยแพร่ทั่วอาฟริกา และส่วนอื่นๆ ของโลกด้วย ขณะเดียวกันเขายังสนับสนุนให้คนอเมริกันซื้อไฟฉาย ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม และมีความยั่งยืนนี้ในโครงการพิเศษที่เรียกว่า BOGO หรือซื้อหนึ่งแถมหนึ่งด้วย โดยคนอเมริกันจะซื้อ ไฟฉายนี้ได้ในราคา 25 ดอลล่าร์ แล้วคุณมาร์คจะส่งไฟฉายไปให้ถึงบ้าน 1 อัน และอีก 1 อันจะส่งไป ยังประเทศกำลังพัฒนา

ตอนนี้บริษัท Sunnight Solar ของคุณมาร์ค เบนท์ กำลังมองหาสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ ที่สามารถใช้ พลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ที่ยากจนของโลก เช่นการใช้แสงอาทิตย์ในการให้พลังงานระบบกรองน้ำ ซึ่งใช้รังสีอัลตราไวโอเล็ตในการฆ่าเชื้อโรค หรือการใช้ยาฆ่าแมลงธรรมชาติ ที่ทำด้วยสารเคมีจากดอก เบญจมาศ ในการต่อสู้กับโรคมาลาเรียที่มียุงเป็นสาเหตุ

ที่จริงแล้วคุณมาร์ค เบนท์มีโครงการต่างๆ มากมาย แต่ตอนนี้จุดมุ่งหมายหลักของเขา คือการช่วยคน ยากคนจนทุกหนทุกแห่ง ให้หลุดพ้นจากความมืดมิดในยามค่ำคืน โดยใช้พลังงานของดวงอาทิตย์

XS
SM
MD
LG