เหตุการณ์ระเบิดพลีชีพมุ่งสังหาร นางเบนนาเซียร์ บุตโต ที่เมืองคาราจี ปากีสถาน เมื่อดึกวันที่ 18 ตุลาคม จนมีผู้เสียชีวิตถึง140 รายและบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้บาดเจ็บล้มตายมากที่สุดในรอบหกปี รัฐบาลปากีสถานบอกว่า ภัยจากระเบิดพลีชีพสูงมากขึ้นเป็นประวัติการณ์
จากรายงานของกระทรวงมหาดไทยปากีสถาน เหตุการณ์ระเบิดพลีชีพ มุ่งเอาชีวิตนางเบนนาเซียร์ บุตโต อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ถือเป็นเหตุระเบิดพลีชีพในประเทศครั้งที่ 56 นับในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา รวมมีผู้เสียชีวิต 714 รายซึ่งรวมกับจำนวนคนตายจาก เหตุการณ์ล่าสุด ที่คาราจีแล้ว จากสถิติของกระทรวงมหาดไทยปากีสถาน ในเหตุการณ์ระเบิดพลีชีพทั้ง56 ครั้ง คนเสียชีวิตส่วนใหญ่ คือเจ้าหน้าที่หทาร ตำรวจและ ชาวบ้านตาดำๆ ส่วนชาวต่างประเทศก็มีคนฝรั่งเศส 9 คนกับนักการทูตชาวอเมริกันประจำที่คาราจีอีกหนึ่งคน
ทาริก บัต นักวิเคราะห์การเมืองปากีสถานกล่าวว่า ระเบิดพลีชีพในปากีสถาน คือผลพวงจากเหตุ การณ์ 11 กันยายนในสหรัฐ เขาบอกว่านี่เป็นภัยที่ปากีสถานได้รับตอบแทน จากการเข้าร่วม ในสงครามต่อต้านการก่อการร้ายที่นำโดยสหรัฐนั่นเอง ในปากีสถานมือระเบิดพลีชีพ กลายเป็นอาวุธอันดับต้นๆ ที่กลุ่มหัวรุนแรงใช้ ในการมุ่งสังหารศัตรู แม้แต่ประธานาธิบดีเปเวส มูชาราฟ นายชอคกัส อาซิซ นายกรัฐมนตรีปากีสถานคนปัจจุบัน และ นาย อับต๊าบ อาเหม็ด ค่าน เชอเปา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ก็ล้วนแต่ตกเป็นเป้ามือ ระเบิดพลีชีพกัน ถ้วนหน้า คุณทาริก บัต กล่าวต่อไปว่า ภัยต่อชีวิตนักการเมืองใน ปากีสถาน เพิ่มมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆมาในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา เขาบอกว่า ไม่เคยมีครั้งใหนที่ชีวิตนักการเมืองประเทศนี้ จะตกอยู่ในอันตรายเหมือนใน ปัจจุบันนี้ นางเบนนาเซียร์ บุตโต รอดจากเหตุระเบิดพลีชีพอย่างหวุดหวิด เพราะเกิดเหตุ นางเข้าไปพักผ่อน ในห้องรับรองกันกระสุนบนรถบรรทุกของเธอในขบวนแห่ ที่ต้อนรับนางจากสนามบินคาราจี เพื่อกลับ บ้านพัก นางบุตโตเดินทางกลับปากีสถานครั้งแรกในรอบ 8 ปี หลังจากลี้ภัยอยู่ต่างแดนเพื่อหลบหนีข้อ กล่าวหาที่ว่าเธอกับสามีร่วมกันโกงกินเงินหลวง จำนวนมหาศาล ตอนเป็นนายกรัฐมนตรีสองสมัย เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน คนเสียชีวิตและบาดเจ็บ จากเหตุระเบิดพลีชีพที่มุ่งสังหารนางบุตโตส่วนใหญ่ คือ ประชาชนที่แห่แหน มาต้อนรับอดีตนายกรัฐมนตรี เหตุการณ์นี้ทำให้ นางบุตโต ถูกวิจารณ์ว่าหละหลวม ทำให้ชีวิตประชาชนตกอยู่ในอันตราย
คุณทาริก บัต นักวิเคราะห์การเมืองปากีสถาน บอกวีโอเอภาคภาษาไทยว่า นางบุตโต นั้นรับรู้ดีว่า มีคนมุ่งจะสังหารตัวเธอ และนางบุตโตก็พูดถึง เรื่องนี้ก่อนเดินทางกลับปากีสถาน เสียอีก แต่ก็ยังตัด สินใจไม่ตัดทอน เวลาการเดินขบวนแห่แหนต้อนรับของตัวเองให้สั้นลง ตามคำขอของรัฐบาลที่อยากจะให้สิ้นสุดก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เดิมทีนางบุตโตวางแผน จะใช้เวลา 18 ชั่วโมงเพื่อเคลื่อนขบวน ต้อนรับของตนจากสนามบินไปยังบ้านพัก ซึ่งห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร ในขณะที่ทางการปากีสถาน กำลังสอบสวนหาคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ นักการเมืองปากีสถานยังอกสั่นขวัญแขวนไปตามๆ กันโดยเฉพาะเมื่อการเลือกตั้งทั่วไปกำลังจะมีขึ้นในต้นปีหน้า แม้แต่นาง บุตโต เองก็ยอมรับว่าคงจะต้องปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการหาเสียง เพื่อลดการเสี่ยงชีวิตลง เนื่องจากว่า ภัยจากมือระเบิดพลีชีพ ที่พิสูจน์ให้เห็นหลายครั้งหลายคราว่า ป้องกันได้ยาก