ภาคเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดียขยายเติบโตคึกคักมานานกว่า 10 ปี จากการที่มีแรงงาน ที่มีความสามารถ ค่าจ้างถูก เป็นจำนวนมากเป็นฐานสนับสนุน แต่ตอนนี้บริษัทเทคโนโลยี สารสนเทศของอินเดีย กำลังเริ่มไปตั้งโรงงานในต่างประเทศ ขณะที่ค่าจ้างแรงงานในประเทศ สูงขึ้นและขาดแคลนคนงานที่มีความชำนาญ
ในเดือนนี้ บริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT ของอินเดียหลายบริษัทประกาศตั้งโรงงานใหม่ในเอเชีย ตอ. และละตินอเมริกา
Wipro technologies กำลังเป็นศูนย์พัฒนาแห่งใหม่ในเม็กซิโก และ Satyam จ้างวิศวกร 300 คนมา ทำงานที่ศูนย์ในมาเลเซีย และ Infosys Technology ก็ไปตั้งศูนย์ในสาธารณรัฐเชค
เมื่อตอนที่เทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดียขยายตัวคึกคักในช่วงทศวรรษ 1990 บริษัทชาติ ตต. ส่งงานออกไปยังอินเดีย ซึ่งมีวิศวกรฝีมือดีทำงานโดยได้ค่าจ้างเพียงส่วนเล็กน้อยของวิศวกรในยุโรป หรือในสหรัฐ
แต่ 10 ปีต่อมา สภาพการณ์เปลี่ยนไป ค่าจ้างในอินเดียกลับสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมการขยายตัวเติบโต ทางเศรษฐกิจ และค่าจ้างแรงในภาค IT สูงขึ้นมากที่สุดจากการสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ ค่าจ้างผู้ ประกอบอาชีพด้านซอฟแวร์สูงขึ้นเกือบ 20 เปอร์เซนต์ในปี 2550 นี้ ยิ่งกว่านั้นบริษัทต่างๆ ยังต้องขับเคี่ยวกับการสูญเสีย คนทำงานที่มีความชำนาญที่ถูกบริษัทคู่แข่งพยายามแย่งชิงต่อไป
นอกจากนั้น ในปีนี้เงินรูปีก็แข็งขึ้นเกือบ 10 เปอร์เซนต์ เมื่อแลกกับเงินดอลล่าร์สหรัฐ ทำให้ผลกำไร จากการส่งออกลดลง จึงทำให้อุตสาหกรรม IT มองหาที่ตั้งสำนักงานใหญ่ที่ค่าใช้จ่ายต่ำนอกอินเดีย
พาร์ธา อิเยนการ์ ผอ.งานวิจัยที่บริษัทที่ปรึกษา Garner ในอินเดียกล่าวว่า กำลังมองหาที่ตั้งสำนัก งานใหม่ใน 53 ประเทศขึ้นไป เขากล่าวว่าความจริงแล้ว บริษัทบริการด้าน IT กำลังย้ายไปอยู่ในประ เทศอื่นๆ เพราะทราบว่าในประเทศเหล่านั้นมีฐานแรงงานที่มีความสามารถความชำนาญ คุ้มค่าที่จะ ไปลองหาทางออก
บริษัท IT ในหลายประเทศ ที่อินเดียมุ่งมอง มีความได้เปรียบด้านค่าใช้จ่ายทั้งค่าจ้างแรงงาน และค่า ใช้จ่ายทั่วไปอื่นๆ นอกจากนั้นในบางประเทศยังสามารถใช้เป็นศูนย์บริการลูกค้าในเขตใกล้เคียง ได้ด้วย อย่างเช่นศูนย์ในเม็กซิโก ซึ่งสามารถบริการลูกค้าในรัฐได้ ศูนย์ในตุรกี และสาธารณรัฐเชค ก็ให้บริการลูกค้าในยุโรป ตต.ได้ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ความต้องการอุตสาหกรรม IT กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วมาก คาดว่าภาค IT จะทำรายได้ราว 50,000 ล้านดอลล่าร์ในปีนี้ มากกว่าเมื่อ 3 ปีก่อนมากเท่าตัว
