หลังผู้นำระเดับสูงของเครือข่ายอัลไคอิดะ ออกมาเรียกร้องให้คนมุสลิมแก้แค้นต่อผู้นำปากีสถานที่ใช้กำลังทหาร บุกยึดสุเหร่าแดง ที่ถูกกล่าหาว่าซุกซ่อนกลุ่มมุสลิมติดอาวุธที่ต่อต้านรัฐบาล สถานการณ์ความปลอดภัยภายในประเทศ ปากีสถานตกอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง
ปัญหาด้านความปลอดภัยเป็นผลพวงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากพลเอกเปเวซ มูชาราฟสั่งให้ทหารบุกยึดสุเหร่าแดง นำไปสู่การเสียชีวิตนับ 73 ราย และบาดเจ็บอีกมาก
ถึงแม้รัฐบาลจะอ้างว่าผู้ตายทั้งหมดเป็นชายติดอาวุธซึ่งรัฐบาลต้องการตัว เพราะเกี่ยวข้องกับทาลิบัน ไม่มีผู้หญิงและเด็ก เสียชีวิตเลยก็ตาม โอกาสที่กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงอื่นๆ ในประเทศจะออกมาก่อความไม่สงบจึงมีสูง เพราะหนึ่งในผู้ตาย คือ นักบวช อับดุล ราชิด กาเซีย รองผู้นำของสุเหร่าแดง
นายทาริก อาซิม รัฐมนตรีด้านข่าวสารของปากีสถาน พูดก่อนหน้านี้ว่ารัฐบาลกำลังเตรียมตัวพร้อมเพื่อรับมือกับการตอบโต้ จากกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในประเทศ โดยมีการวางกำลังทหาร ตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น และการออกมา เรียกร้องของผู้นำระดับสูงของกลุ่มอัลไคอิดะ ให้คนมุสลิมล้างแค้นต่อพลเอก เปเวซ มูชาราฟ ยิ่งทำให้ หลายฝ่ายกังวล รวมทั้งบรรดาสถานเอกอักราชทูตต่างประเทศต่างรวมถึงประเทศไทย ได้เตือนคนของตนให้ระมัดระวังตัว
คุณสุโข ภิรมย์นาม เอกอักราชทูตไทย ประจำกรุงอิสลามบัด กล่าวถึงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ความปลอดภัยใน ปากีสภานว่า เท่าที่ข่าวที่ปรากฏว่าผู้นำระดับสูงของอัลไคอิดะประกาศก็น่ากังวล เพราะพวกนี้มีขีดความสามารถในการ โต้ตอบสูง อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องตระหนัก สำหรับถายหลังเหตการณ์มัสยิดแดง และว่าเขาไม่มั่นใจในเรื่องความปลอด ภัยมากนัก ว่าหลังจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเฉพาะคนไทย เด็กนักเรียนไทย รวมทั้งเจ้าหน้าที่สถานทูตของไทย ก็มีการปรึกษาหารือกัน วิเคราะห์ว่าเหตุการณืจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างจะรุนแรง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า สิ่งที่ไม่ปราธณา อาจจะเกิดตามมาได้ และก็มีการติดต่อกับคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนไทย โดยขอร้องว่าถ้าเป็นไปได้อย่าออกจากที่พักในมหาวิทยาลัย ไม่ไปในที่ชุมนุมชน ให้ระวังตัวเอาไว้
คุณสุโข ภิรมย์นาม กล่าวต่อไปว่าทางสถานทูตต้องวิเคราะห์ว่าเหตุการณ์นี้จะนำไปสู่เหตุการณื่นอะไรบ้าง เพราะว่าเท่าที่ข่าวคราวที่เราติดตามได้ ก็มีกลุ่มศาสนาหัวรุนแรงกลุ่มอื่นๆซึ่งเป็นsymphatizers ของ Lal Masjid ก็มีปฏิกริยาบ้างแล้ว อย่างทางเหนือ ใน northwest frontier provinces ก็มีเดินทางประท้วง ปะทะกับเจ้าหน้าที่ มีการเผาทำลายสำนักงานขององค์การระหว่างประเทศ ก็เกิดขึ้นแล้ว และที่ quetta ก็มีแล้ว มีการเดินขบวนประท้วง ประกาศจีฮัดต่อต้านรัฐบาล ก็น่าเป็นห่วง
เอกอักราชทูตไทย ประจำกรุงอิสลามบัดกล่าวถึงการเตรียมแผนการฉุกเฉินว่า ถ้าดูว่าสถานการณืมีสัญญาณว่าน่าจะไม่ปกติ จะรุนแรงต่อไป ก็จะเชิญทุกคนมารวมกันที่สถานทูตก่อน จัดที่พักหลับนอนอาหารการกินจะเตรียมเอาไว้ นั่นเป็นแผนขั้นแรก แล้วถ้าดูต่อไปแล้ว ยังไม่ถึงขีดรุนแรงมากนักก็จะอยู่กันต่อไป แล้วถ้ามองต่อไปแล้วคิดว่ามันจะรุนแรงมากขึ้น ก็อาจจะต้อง อพยพกันกลับกรุงเทพ ซึ่งก็มีสายการบินอยู่แล้ว