ในวันที่สองของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจาก 57 ชาติสมาชิกขององค์การอิสลาม หรือ โอไอซี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ได้รายงานต่อที่ประชุมถึงการแก้ ปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ของไทย
นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวแทนไทย ในการระชุมในฐานะประเทศ สังเกตการณ์ ได้ขึ้นรายงาน ต่อที่ประชุมถึงปัญหา ความรุนแรงในสามจังหวัด คือ ยะลา ปัตตานีและ นราธิวาส และ ความคืบหน้า ในการแก้ปัญหา หลังจากที่ในวันก่อนหน้านั้น เลขาธิการองค์การอิสลาม ได้ชี้ถึง ความกังวลของชาติมุสลิมต่อปัญหาของไทยในที่ประชุม เพื่อลดภาพลบในสายตา ของชาติมุสลิมหลายชาติว่า รัฐบาลไทย ซึ่งเป็นรัฐบาลพุทธใช้กำลังปราบปราม คนมุสลิมกลุ่มน้อยที่ต่อต้านรัฐบาล รัฐมนตรีต่างประเทศไทยได้ยืนยันกับที่ประชุมว่าความรุนแรงในภาคใต้ไม่ใช่ความขัดแย้งทางศาสนา ซึ่งทางโอไอซีเองก็รับรองอย่างนั้นมา ตลอด และว่าความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ของไทย ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อคนกลุ่มไหนเลย แต่สร้างความทุกข์ให้กับทุกคนต่างหาก
รัฐมนตรีต่างประเทศไทย กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลไทยมุ่งมั่นในการสร้างสันติสุขและ การปรองดองกัน และว่า ประชาชนในสามจังหวัดภาคใต้ของไทยเป็นส่วนหนึ่งของชาติ ที่มีความหลากหลายและแตกต่าง ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกับคนไทยอื่นๆ มีอิสระ เต็มที่ทุกด้านรวมทั้งด้านศาสนาและวัฒนธรรม อันเป็นสิทธิ์ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ระบุไว้ ชัดเจนว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ ผู้พิทักษ์ปกป้องศาสนาทุกศาสนา
รัฐมนตรีต่างประเทศไทย ยังกล่าวถึงความพยายามแก้ปัญหาด้วยว่า ทางการไทยได้ออก แผนพัฒนาเศรษฐกิจและการศึกษาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อลดความแตกต่าง และสร้างโอกาสในการศึกษาและการงานให้กับคนมุสลิมในท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี แม้ทางการไทยยังไม่ระบุชัดเจนว่า คนกลุ่มไหนอยู่เบื้องหลังความรุนแรง รัฐมนตรีต่างประเทศไทย กล่าวประณามกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังความรุนแรงในภาคใต้ว่า ต่อต้านและไม่เคารพความหลากหลายทางสังคมและศาสนา และพยายามบ่มเพาะ ความคิดสุดโต่งทางศาสนาและความเกลียดชัง โดยใช้ศาสนามาเป็นข้ออ้างบังหน้า เพื่อก่อการร้าย ทำร้ายทั้งผู้หญิงและ เด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นคน จากศาสนาใดก็ตาม
นายนิตย์ พิบูลสงคราม กล่าวไว้ด้วยว่า รัฐบาลไทยเข้าใจดีว่า ปัญหานี้ต้องการเวลาในการ เยียวยา และไม่มีทางแก้ไขได้ในช่วงข้ามคืน แต่ได้ขอร้องให้ชาติมุสลิมเห็นใจ และสนับ- สนุนไทยในการสร้างความปรองดองในชาติ
อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศไทย ไม่ชี้แจงถึงความคืบหน้าในแนวคิดที่รัฐบาลต้องการ ตั้งโต๊ะเจรจากับผู้ก่อความรุนแรง ทางการไทยอ้างเพียงแต่ว่า ยังไม่มีกลุ่มมุสลิม ติดอาวุธกลุ่มไหนติดต่อเข้ามา
ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า มีสมาชิกของกลุ่มพูโลใหม่ ที่อ้างว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ความรุนแรงส่วนหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ได้เดินทางไปที่กรุงอิสลามบัดเช่นกัน และกำลังขะมักเขม้นเดินสายเข้าพบกับตัวแทนรัฐบาลของชาติมุสลิมอยู่นอกห้องประชุม โอไอซี เพื่อขอให้โลกมุสลิมเพิ่มแรงกดดันแก่รัฐบาลไทย เพื่อให้บรรลุข้อเรียกร้องที่ พวกเขาต้องการ คือให้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกครองตนเอง ซึ่งเป็นข้อเสนอ ที่รัฐบาลไทยไม่ยอมรับ เจ้าหน้าที่ไทยท่านหนึ่งที่ไปร่วมประชุม ยืนยันกับวีโอเอ โดยไม่ประสงค์จะออกนามว่า กำลังพยายามขอคุยกับ สมาชิกกลุ่มพูโลใหม่ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา และทางกลุ่มยังปฏิเสธที่จะเข้าพบ และนั่นยิ่งทำให้ความหวัง ที่จะตั้งโต๊ะเจรจาสันติภาพกันยังดูเลือนลาง