ลิ้งค์เชื่อมต่อ

จีนจะกลายเป็นประเทศร่ำรวยหรือจะกลายเป็นประเทศของคนแก่ก่อนกัน?


รายงานของทางการจีนระบุว่า ปัจจุบันคนจีนกว่า 144 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 1,300 ล้านคน มีอายุเกินกว่า 60 ปี รายงานยังบอกอีกว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยากจนและไร้งานทำ

รายงานของทางการจีนระบุว่า ปัจจุบันคนจีนกว่า 144 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 1,300 ล้านคน มีอายุเกินกว่า 60 ปี รายงานยังบอกอีกว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยากจนและไร้งานทำ ปัญหาสำหรับคนสูงอายุนี้กลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับประเทศจีน ในแต่ละปีจำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นประมาณ 6 ล้านคน และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป คาดว่าภายในปี คศ. 2050 จีนจะมีประชากรอายุเกิน 60 ปีมากกว่า 400 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 30 เปอร์เซนต์ของประชากรทั้งประเทศ

นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่าส่วนหนึ่งของปัญหา คือการที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการจำกัดจำนวนบุตรครอบครัวละ 1 คนมาเป็นเวลาเกือบ 30 ปีทำให้ในช่วงไม่กี่ปีต่อจากนี้ จีนจะมีคนหนุ่มสาววัยทำงานจำนวนน้อยมากที่จะมารองรับปริมาณผู้สูงอายุที่กำลังเพิ่มขึ้น

คุณเจอร์ฮาร์ด ไฮลิค แห่งกองทุนเพื่อประชากรสหประชาชาติกล่าวว่า จำนวนประชากรเด็กและคนหนุ่มสาวอายุ 15-60 ปีในประเทศจีนจะมีสัดส่วนคงที่ หรือลดลงในขณะที่ประชากรอายุเกิน 60 ปีจะมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย

ชาล์ส วูฟ นักเศรษฐศาสตร์อเมริกันชี้ว่า คนจีนในวัยทำงานรุ่นหลังจะมีภาระมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวที่ลูกคนเดียวต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ และปู่ย่าตายาย ภาระที่ว่านี้จะสะท้อนให้เห็นทั้งในด้านอัตราภาษีที่สูงขึ้น และเงินที่คนต้องบริจาคเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญจำนวนมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ชาล์ส วูฟยังบอกอีกว่า ในอนาคตจีนจะมีทรัพยากรแรงงานลดลง หมายความว่าภายในปี คศ. 2050 จีนจะมีอัตราส่วนผู้เกษียณอายุ 1 คนต่อแรงงาน 3-4 คน เทียบกับสัดส่วนผู้เกษียณอายุ 1 คน ต่อแรงงาน 5 คนในปัจจุบัน

นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้บอกว่า อัตราส่วนจำนวนคนทำงานต่อผู้สูงอายุที่ลดลงนี้ แสดงให้เห็นถึงภาระที่เพิ่มขึ้นของประชากรวัยทำงานในรูปของภาษี รวมทั้งต้นทุนและทรัพยากรแรงงานที่จะมารองรับการเติบโตระดับ 9-10 เปอร์เซนต์ต่อปีในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

จากปัญหาแรงงานดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่า ในอนาคตจีนอาจจะต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติ หรืออาจจะต้องทบทวนนโยบายจำกัดจำนวนบุตรเสียใหม่

อย่างไรก็ตาม คุณเจอร์ฮาร์ด ไฮลิค แห่งกองทุนเพื่อประชากรสหประชาชาติ เชื่อว่าจีนยังมีแรงงานสำรองจำนวนมากพอที่จะรองรับปัญหาขาดแคลนแรงงานในอนาคต เขาประเมินว่าจีนยังมีประชากรกว่า 200 ล้านคนในชนบทที่ยังไม่มีงานทำอย่างเหมาะสม คนเหล่านั้นจะอพยพเข้าสู่เมืองและเติมเต็มงานในเขตเมืองต่างๆ

กล่าวได้ว่าเศรษฐกิจจีนสมัยใหม่จะยังเติบโตต่อไป และดูดซับทรัพยากรแรงงานจากภาคชนบทเข้ามา อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่า หากจีนยังจะเน้นที่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป จีนจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการผลิตและโครงสร้างตลาดให้สนองตอบความต้องการของเหล่าลูกค้าผู้สูงอายุมากขึ้น

แม้ว่าจีนจะมีระบบกองทุนเงินบำนาญ หรือเงินสำรองเลี้ยงชีพมากมายทั้งของรัฐบาล และเอกชน รวมทั้งโครงการเงินออมอีกหลายโครงการ ซึ่งช่วยให้ชาวจีนสามารถเตรียมตัวเมื่อเข้าสู่วัยชรา หรือเกษีนณอายุการทำงาน แต่คำถามที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนสงสัยก็คือ จีนจะกลายเป็นประเทศร่ำรวยหรือจะกลายเป็นประเทศของคนแก่ก่อนกัน?

XS
SM
MD
LG