Freedom House องค์กรอิสระที่สำรวจความมีเสรีภาพทั่วโลก กล่าวว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมา มีความชะงักงันทางด้านเสรีภาพเกิดขึ้นทั่วโลก และเตือนว่ามีแนวโน้มที่ส่อไปในทางที่อาจคุกคามเสรีภาพทางการเมืองและเสรีภาพของพลเมืองได้ทั่วโลก
รายงานการสำรวจประจำปีที่ Freedom House เผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นว่า สัดส่วนของประเทศที่ถือว่า “เสรี” นั้นไม่เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 แล้ว รายงานประจำปีฉบับล่าสุดเป็นผลของการสำรวจ 193 ประเทศ และพบว่า มีประเทศที่เสรีอยู่ 90 ประเทศ เสรีเป็นบางส่วน 58 ประเทศ และไม่เสรี 45 ประเทศ ในขณะที่ ราวๆครึ่งหนึ่งของประชากรโลก ซึ่งอยู่ในสภาพไม่เสรีนั้นอยู่ในประเทศจีน
รายงานของ Freedom House กล่าวว่า พัฒนาการด้านหนึ่งที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวล คือ การตอบโต้องค์กร ขบวนการ และสื่อที่คอยติดตามตรวจสอบเรื่องสิทธิมนุษยชน หรือส่งเสริมเสรีภาพที่เป็นประชาธิปไตย คุณ Arch Puddington ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Freedom House กล่าวว่าในช่วงปีที่แล้ว เอเชียถอยหลังเข้าคลองมากกว่าใครเพื่อน และที่สำคัญที่สุดคือการปฏิวัติในประเทศไทย
ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Freedom House กล่าวว่า แต่ประเทศไทยมิได้เป็นประเทศเดียวที่ถอยหลังเข้าคลอง เสรีภาพในติมอร์ตะวันออกและฟิลิปปินส์ลดลง ในขณะที่เสรีภาพในไต้หวันลดลงบ้างเพราะปัญหาคอร์รับชั่นในระดับผู้นำประเทศ มาเลย์เชียกำลังเดินผิดทิศทาง ฟิจิมีการปฏิวัติ รวมทั้งการเลือกตั้งที่มีปัญหาในหมู่เกาะโซโลมอน
รายงานประจำปีของ Freedom House ในเรื่องเสรีภาพในโลก กล่าวว่าในทวีปแอฟริกา ซึ่งแม้จะก้าวหน้าติดต่อกันมาหลายปี ก็ถดถอยลงบ้างในปีที่แล้ว เพราะสิทธิเสรีภาพของสื่อสถานภาพทางศาสนา และของชนกลุ่มน้อยถูกข่มขู่ รวมทั้งสภาพแวดล้อมในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่ไม่เข้มแข็ง รัสเซียก็ถูกระบุว่าเสรีภาพเสื่อมลง เนื่องเพราะการปราบปรามองค์กรที่ไม่ใช่รัฐบาล หรือ NGO และการที่รัสเซียให้การสนับสนุนระบอบปกครองในเติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน ในขณะที่ลาติน อเมริกาถูกระบุว่า มีความก้าวหน้าเพราะมีการเลือกตั้งในกว่าสิบประเทศ แต่ปัญหาอยู่ที่ การมีอาชญากรรมสูงการคอร์รับชั่น และเศรษฐกิจที่ยังไม่มีเสถียรภาพ
รายงานของ Freedom House กล่าวว่า ประเทศที่มีเสรีภาพมากที่สุด คือ สหรัฐและยุโรปตะวันตก กระนั้น สหรัฐก็ถูกตำหนิในเรื่องการรณรงค์ต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งก่อให้เกิดความห่วงกังวลว่าไปละเมิดเสรีภาพของพลเมืองอเมริกัน