ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สัมภาษณ์ผู้เข้าชมภาพยนต์เรื่องมหาวิทยาลัยเหมืองแร่ ในงานแสดงภาพถ่ายและภาพยนต์อาเซียนครั้งที่ 3


ระหว่างวันที่ 2-5 พศจิกายน 2549 ที่ผ่านมา องค์การ Grace Heritage ร่วมกับสมาคม National Geographic ที่กรุงวอชิงตัน จัดแสดงภาพถ่ายและภาพยนตร์อาเซียน ครั้งที่ 3 นอกจากมีการจัด แสดงภาพถ่ายแล้ว ยังมีการฉายภาพยนตร์หลายเรื่องจากประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงค์โปร์ เวียดนาม กัมพูชา และประเทศไทย ซึ่งภาพยนตร์จากประเทศไทยที่นำมาฉายให้ชม 2 เรื่อง นั้น คือ เรื่องมหาวิทยาลัยเหมืองแร่ ซึ่งดัดแปลงจากชีวิตจริงของคุณอาจิณ ปัญพรรค์ เด็กหนุ่มที่เรียน ไม่จบมหาวิทยาลัย แต่ได้เรียนรู้ชีวิตจริงจาก มหาวิทยาลัยเหมืองแร่ ผลงานกำกับโดยคุณจิระ มะลิกูล และอีกเรื่องหนึ่งชื่อว่า เฉิ่ม กำกับโดยคุณคงเดช จาตุรันต์รัศมี เป็นเรื่องราวของหนุ่มขับแท็กซี่ที่ชีวิต เปลี่ยนไปหลังจากพบรักกับหญิงสาวผู้เป็นแรงบันดาลใจในชีวิต

คุณกษมา วิชกูล คนไทยคนหนึ่ง ซึ่งทำงานอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งได้เข้าชมภาพยนต์เรื่องมหาวิทยา ลัยเหมืองแร่ เล่าถึงภาพยนต์เรื่องนี้ให้ผู้สื่อข่าววีโอเอฟังว่า ชอบภาพยนต์เรื่องนี้ตรงที่ภาพสวย แม้จะไม่ รู้จักนักแสดง แต่ก็รู้สึกว่าเขา แสดงได้ดี เป็นธรรมชาติ บทอาจจะแปลกหู เพราะไม่ค่อยคุ้นภาษาใต้ และลักษณะคำพูด แต่ก็ชอบตรงที่ภาพสวย โดยเนื้อหา ภาพรวมเป็นเรื่องแปลกออกไป ไม่ใช่เรื่องรัก หรือ แบบเรื่องวัยรุ่น อาจจะได้ข้อคิดบ้าง เป็นเรื่องของการใช้ชีวิต จับประเด็นหลักๆ ไม่ได้มาก ว่าตกลงท้ายที่สุดเขาได้อะไรจากการอยู่ที่เหมือง เหมือนกับว่าดูการใช้ชีวิตของเขา การปรับตัวในการใช้ชีวิต การอยู่ร่วมกับคนอื่น เป็นเรื่องพัฒนาการของผู้ชายคนหนึ่ง

คุณกษมา ยังเล่าว่า แรงบันดาใจที่ได้จากภาพยนตร์นี้ คือ ความอดทน คนเราถ้าจะมุ่งมั่นทำอะไร ต้องทำให้ดีที่สุด อย่าทำเพียงครึ่งๆ กลางๆ และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นต้องมีความเป็นกันเอง ต้องให้ใจต่อใจ เธอบอกด้วยว่า รู้สึกภูมิใจที่คนไทยทำหนังไทยได้ดีขึ้น มีเนื้อหาสาระมากขึ้น

ส่วนคุณ ปิยวุฒิ ภูตระการ คนไทยอีกคนที่เกิดและเติบโตที่รัฐเทกซัส ก่อนย้ายมาอยู่ที่กรุงวอชิงตัน และมีโอกาสมาชมภาพยนตร์เรื่องมหาวิทยาลัยเหมืองแร่ด้วย บอกว่าคนทำหนังไทยสร้างหนังได้ดีขึ้น รู้สึกถึงบรรยาศแบบปักต์ใต้ และคิดว่าช่วยให้คนอเมริกันรู้จักประเทศไทย ในเรื่องของประเพณีไทย และการทำหนังไทยมากขึ้น

และปิดท้ายด้วยมุมมองความคิดเห็นจากคนไทยอีกคน คุณจิ๊บ ชุณหดา ให้ความเห็นว่าชมเรื่องนี้แล้ว ได้ข้อคิดสำหรับตัวเองในเรื่องการใช้ชีวิต การรู้จักรับฟังคนอื่น และไม่ควรตัดสินคนเพียงผิวเผิน ต้องลองศึกษาดูว่าเขาดีหรือไม่ดีอย่างไร

คุณจิ๊บ ชุณหดา ยังฝากถึงคนไทยด้วยว่า อยากให้คนไทยรักหนังไทย เห็นคุณค่าของหนังไทย และขอ ให้คนทำหนังอย่าเน้นเรื่องวัยรุ่นมากเกินไป ควรทำหนังดีมีคุณภาพ พร้อมให้ข้อคิดสติเตือนใจแก่คนดูเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังชอบดูหนังไทย

XS
SM
MD
LG