การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก หรือ COP27 ที่อียิปต์ จบลงไปแล้วในช่วงเช้าวันอาทิตย์ โดยมีการประกาศจัดตั้ง "กองทุนเพื่อชดใช้ความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม" เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน แม้ว่านักวิเคราะห์หลายคนต่างเชื่อว่า เงินอาจไม่ช่วยรับมือหายนะด้านสิ่งแวดล้อมได้
เมื่อปีค.ศ. 2020 ประชาชนหลายสิบคนในบราซิลเสียชีวิตจากเหตุการณ์โคลนถล่มที่เกิดจากฝนตกหนักในชุมชนยากจนของบราซิล เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาหลายวันในการขุดหาศพผู้ประสบภัยเหล่านั้น
ผู้คนในหมู่บ้านที่เกิดเหตุต่างกล่าวว่า ปัจจุบัน ฝนตกหนักแต่ละครั้งมาพร้อมอันตรายและความหวาดกลัวว่าจะเกิดภัยธรรมชาติ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อหลายปีก่อน
โจเซลดา อมาแรนเต ชาวบ้านในหมู่บ้านกัวรูจา กล่าวว่า ผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนต่างบอกว่า ทุกวันนี้ฝนตกแต่ละครั้งช่างแตกต่างจากสมัยก่อน พวกเขาไม่เคยเจอภัยธรรมชาติเช่นนี้มาก่อน ซึ่งเธอเชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
เมื่อวันอาทิตย์ บรรดาผู้แทนจากนานาชาติที่เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก หรือ COP27 ที่อียิปต์ บรรลุข้อตกลงจัดตั้ง "กองทุนเพื่อชดใช้ความสูญเสียและความเสียหาย" เพื่อช่วยเหลือประชาชนยากจนในประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก ในการเตรียมตัวและฟื้นฟูจากภัยธรรมชาติซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
การประชุมอย่างเป็นทางการครั้งแรกเพื่อหารือเรื่องการจัดหาและแจกจ่ายเงินทุนจากกองทุนดังกล่าวจะมีขึ้นในเดือนมีนาคมปีหน้า แม้ว่านักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า กองทุนนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของบรรดาผู้คนที่เผชิญกับหายนะจากภาวะโลกร้อนได้ไม่มากนักก็ตาม
ขณะเดียวกัน ในประเด็นที่เกี่ยวกับความพยายามลดก๊าซคาร์บอนเพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสจากระดับเฉลี่ยก่อนยุคอุตสาหกรรมนั้น ดูเหมือนไม่มีความคืบหน้าในการประชุม COP27 ที่เพิ่งจบลงไป
อันโตนิโอ กูเทอเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า เราจำเป็นต้องลดปริมาณก๊าซคาร์บอนลงอย่างมากในทันที ซึ่งเป็นเรื่องที่ COP27 ยังไม่สามารถทำได้ พร้อมระบุว่า แม้การจัดตั้งกองทุนเพื่อชดใช้ความสูญเสียและความเสียหายนั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ยังไม่ใช่คำตอบในหลายกรณี เช่น หากเกาะเล็กแห่งหนึ่งต้องหายไปจากแผนที่โลกเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือประเศในแอฟริกาต้องแห้งแล้งจนกลายเป็นทะเลทราย
ที่เมืองกัวรูจา ประเทศบราซิล ดูเหมือนปัญหาจะลุกลามไปอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเกิดขึ้นในทันที ขณะที่ผู้คนยังคงทำลายสิ่งแวดล้อม และพวกเขาก็ไม่มีเงินทุนที่จะช่วยฟื้นฟูจากภัยพิบัติดังกล่าว
ชาวบ้านหลายคนบอกว่า หากภูเขาในบริเวณนั้นยังคงมีต้นไม้ปกคลุมจำนวนมาก การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็คงไม่ทำให้เกิดโคลนถล่มครั้งใหญ่เช่นนี้
อคาซิโอ เบเซร์รา ดา ซิลวา ชาวบ้านผู้หนึ่งบอกว่า "นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์ทำให้ธรรมชาติกราดเกรี้ยว ที่คือผลที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" และว่า ธรรมชาติกำลังลงโทษพวกเราจากจากการตัดไม้ทำลายป่ามานานหลายสิบปี รวมทั้งการกระทำที่ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1 องศาเซลเซียสไปแล้ว ซึ่งเขาหวังว่าการเจรจาบนเวทีโลกจะช่วยชะลอเรื่องนี้ได้ แม้ว่าจะไม่สามารถย้อนกลับไปยังจุดเดิมที่เคยเป็นมาได้แล้วก็ตาม
- ที่มา: วีโอเอ
