ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สำรวจกระแสทำเหมืองใต้ทะเลลึก ค้นหาแร่ธาตุและโลหะหายาก


FILE - Lobster fishermen work at sunrise in the Atlantic Ocean, Sept. 8, 2022, off of Kennebunkport, Maine. Scientists, lawyers and government officials are gathered in Jamaica the week of Nov. 1, 2022 to debate deep sea mining
FILE - Lobster fishermen work at sunrise in the Atlantic Ocean, Sept. 8, 2022, off of Kennebunkport, Maine. Scientists, lawyers and government officials are gathered in Jamaica the week of Nov. 1, 2022 to debate deep sea mining

อุตสาหกรรมเหมืองแร่กำลังผลักดันให้มีการสำรวจมหาสมุทรลึก ๆ ของโลกให้มากขึ้น เพื่อค้นหาโลหะและแร่ธาตุที่นำไปใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีอื่น ๆ แต่นักวิทยาศาสตร์บางคนกังวลว่า การทำเหมืองในทะเลลึกจะเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและระบบชีวภาพที่มีความสำคัญต่อชั้นบรรยากาศได้

บรรดานักวิทยาศาสตร์ นักกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้ร่วมประชุมกันจนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ประเทศจาไมกา เพื่อหารือเกี่ยวกับการทำเหมืองในทะเลลึก โดยองค์กรพื้นทะเลระหว่างประเทศ หรือ (ISA) ซึ่งเป็นกลุ่มอิสระที่สร้างขึ้นโดยสนธิสัญญาสหประชาชาติเป็นผู้จัดการประชุมนี้

ISA ได้ให้ใบอนุญาตสำรวจน่านน้ำลึกนอกอาณาเขตของประเทศใด ๆ 31 ฉบับ แม้ว่าจะยังไม่ได้ให้ใบอนุญาตใด ๆ ในการเริ่มขุดเจาะ แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกังวลว่าจะมีการให้ใบอนุญาตเร็วเกินไป ก่อนที่จะมีการกำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในเรื่องนี้

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การขุดเหมืองจะทำให้น้ำสกปรก ส่งเสียงดัง และมีแสงสว่างที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศในทะเลลึก และว่าบรรดานักวิทยาศาสตร์ไม่ค่อยรู้เรื่องทะเลลึกมากนัก และจำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติมก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการขุดเหมือง

ทั้งนี้ มีการสำรวจน่านน้ำลึกในมหาสมุทรของโลกไปเพียงไม่ถึง 1% โดยกิจกรรมการสำรวจส่วนใหญ่ในปัจจุบันอยู่ในพื้นที่น่านน้ำขนาดใหญ่ระหว่างฮาวายและเม็กซิโก

บรรดาบริษัทเหมืองแร่โต้แย้งว่า การขุดเหมืองในทะเลลึกมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าและสร้างความเสียหายน้อยกว่าการขุดเหมืองบนบก

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศคาดว่า ความต้องการแร่ธาตุจะเพิ่มขึ้นหกเท่าภายในปี 2050 รายงานจากฟิทช์เรทติ้งส์ที่เผยแพร่ในเดือนตุลาคมระบุว่า ความต้องการดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนล้วนต้องการแร่ธาตุที่ค้บพบในทะเล

นาอูรู เกาะเล็ก ๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้นำด้านการทำเหมือง หวังว่าจะสามารถทำกำไรจากการขุดแร่ที่นำไปใช้ในเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ในประเทศอื่น ๆ มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการขุดเหมืองและกำลังผลักดันให้มีการใช้กฎใหม่ ๆ เพื่อควบคุม

เอลซา โมเรรา มาร์เซลิโน เด คาสโตร (Elza Moreira Marcelino de Castro) ตัวแทนของบราซิลกล่าวในที่ประชุมกล่าวว่า “เรายังคงมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลที่จะตามมา”

เอ็มมานูเอล มาคร็อง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวไว้เมื่อต้นปีนี้ว่า เขาสนับสนุนการห้ามทำเหมืองในทะเลลึก ส่วนเยอรมนีซึ่งมีสัญญาการสำรวจสองฉบับ ประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่าจะไม่สนับสนุนการขุดเหมืองดังกล่าวในเวลานี้

ทางด้านนิวซีแลนด์ ฟิจิ และซามัว ไม่ต้องการให้มีการทำเหมืองจนกว่าจะทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้ได้รับการสนับสนุนจากนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายบางคน

ดีวา เอมอน (Diva Amon) นักชีววิทยาทางทะเลกล่าวว่า การศึกษาในเรื่องนี้ต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรือหลายปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ เนื่องจาก “เรายังไม่เข้าใจว่ามีสัตว์ชนิดไหนบ้างที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น และอยู่กันอย่างไร” และว่าเนื่องจากแร่ธาตุจะเติบโตเพียง 1-10 มิลลิเมตรในทุก ๆ ล้านปี ดังนั้นทะเลลึกจึงฟื้นตัวจากความเสียหายได้อย่างช้า ๆ

ส่วนข้อกังวลอื่น ๆ เกี่ยวกับการทำเหมืองในทะเลลึก ได้แก่ การแบ่งเงินและการกำกับดูแลบริษัทเหมืองแร่

สำหรับประเทศที่ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลสามารถให้การสนับสนุนบริษัทเอกชนที่แสวงหาใบอนุญาตการสำรวจได้ โดยสหรัฐฯ ก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ประเทศที่ไม่ได้ลงนามในอนุสัญญานี้

ไมเคิล ลอดจ์ (Michael Lodge) เลขาธิการของ ISA กล่าวในการประชุมที่จาไมกาว่า ทางหน่วยงานต้องการที่จะรับรองการปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเลในขณะที่บรรดาประเทศสมาชิกดำเนินการตามกฎที่ได้รับการเสนอไว้

  • ที่มา: เอพี
XS
SM
MD
LG