ชอว์นา วิลสัน นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ระบุว่า เธอซื้อชุดกระโปรงสี่ตัวที่ห้างสรรพสินค้า La Samaritaine ซึ่งเป็นห้างหรูในเครือแอลวีเอ็มเอชในกรุงปารีส หลังจากที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมาต่ำกว่าค่าเงินดอลลาร์เมื่อวันพุธ
ค่าเงินยูโรที่อ่อนตัวลงมากที่สุดในรอบ 20 ปีนี้ เกิดขึ้นขณะที่มีความกังวลว่า ราคาพลังงานที่สูงขึ้นจากความขัดแย้งในยูเครน อาจทำให้สหภาพยุโรปเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจเป็นเวลานาน ตามรายงานของรอยเตอร์
วิลสัน นักท่องเที่ยวจากรัฐโคโลราโดวัย 49 ปี ระบุว่า เธอรู้สึกว่าสินค้าในยุโรปเหมือนอยู่ในช่วงลดราคา เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินยูโรมีค่าเงินเกือบเท่ากัน จึงทำให้เธอรู้สึกอยากจับจ่ายมากกว่าเดิม
เช่นเดียวกับเจนนิเฟอร์ โกรเนอร์ อินฟลูเอนเซอร์บนแอปพลิเคชั่นติ๊กตอก ที่ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยจำนวนมากที่กรุงปารีสเมื่อเดือนเมษายน โดยเธอระบุว่า ไม่เคยเห็นสินค้าหรูหราคาถูกขนาดนี้มาก่อน
ยกตัวอย่างเช่น เธอซื้อกระเป๋ายี่ห้อแอร์เมส รุ่นเบอร์กิน มาได้ในราคา 4,000 ดอลลาร์หลังคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ซึ่งถูกกว่าราคากระเป๋ารุ่นเดียวกันในสหรัฐฯ ที่อยู่ที่กว่า 9,000 ดอลลาร์ เธอยังซื้อกระเป๋าถือและเครื่องประดับของปราด้า ดิออร์ หลุยส์ วิตตอง และชาเนล ในราคาที่ต่ำกว่าราคาขายในสหรัฐฯ ถึง 8,000 ดอลลาร์ จากการคำนวณของเธอ
ค่าเงินยูโรที่อ่อนลงดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ได้เป็นอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวอเมริกันอาจเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของภาคสินค้าหรูหราในยุโรปในช่วงไตรมาสที่สอง ตามการวิเคราะห์ของธนาคารบาร์เคลย์ส
บทวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอส ที่อ้างอิงข้อมูลจากบริษัทคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับนักท่องเที่ยว Planet ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรทำให้การใช้จ่ายในภาคการท่องเที่ยวในยุโรปสูงขึ้นสี่เท่าเมื่อเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีการใช้จ่ายจากชาวอเมริกันมากขึ้น
ธุรกิจสินค้าหรูหราฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็วหลังช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 โดยผู้คนเร่งจับจ่ายเงินที่เก็บออมไว้ในช่วงล็อกดาวน์เพื่อความสุขของตนเองขณะที่กลับมาเข้าสังคมอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยอดขายในจีน ซึ่งเป็นตลาดสินค้าแบรนด์เเนมที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลับลดต่ำลงในปีนี้ เนื่องจากนโยบายล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเพื่อรับมือการระบาดระลอกใหม่ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ต้องปิดตัว ทำให้มีความต้องการบริโภคน้อยลง และทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนในยุโรปลดลงด้วย
ด้วยเหตุนี้ นักท่องเที่ยวอเมริกันที่ตั้งใจมาจับจ่ายใช้สอยในยุโรปในช่วงที่ค่าเงินยูโรอ่อนลงนี้ จึงช่วยทดแทนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงได้ โดยในช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนเคยเป็นกลุ่มหลักที่ช่วยขับเคลื่อนยอดขายสินค้าแบรนด์หรูในยุโรป
เมื่อวันศุกร์ บริษัทสินค้าหรูหราอย่างรีชมอนท์และเบอร์เบอรี่ รายงานว่า มียอดขายที่สูงขึ้นในยุโรป ซึ่งช่วยดึงยอดขึ้นจากยอดขายที่ลดต่ำลงกว่า 30% ในจีน
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสได้ประโยชน์จากการจับจ่ายสินค้ามากขึ้นของนักท่องเที่ยวมากที่สุด โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ยอดขายสินค้าในกลุ่มนักท่องเที่ยวในฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นแต่ก็ยังเป็นยอดที่ต่ำกว่าเมื่อปีค.ศ. 2019 ราว 11% ตามบทวิเคราะห์ของธนาคารยูบีเอส
เมื่อเดือนพฤษภาคม ชาเนลระบุกับรอยเตอร์ว่า อาจเพิ่มราคาสินค้าขึ้นในเดือนกรกฎาคม เพื่อรับมือกับภาวะค่าเงินผันผวน โดยเฉพาะค่าเงินยูโรที่อ่อนลง และภาวะเงินเฟ้อ
- ที่มา: รอยเตอร์
