ลิ้งค์เชื่อมต่อ

‘มาคร็อง’ สูญเสียเสียงข้างมากในสภา ส่งแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองฝรั่งเศส


Prezidan Franse Emmanuel Macron kite biwo vot kote li sot vote nan premye tou eleksyon palmante peyi La Frans la, nan Le Touquet, rejyon no la Frans, Dimanch 12 Jyen 2022.
Prezidan Franse Emmanuel Macron kite biwo vot kote li sot vote nan premye tou eleksyon palmante peyi La Frans la, nan Le Touquet, rejyon no la Frans, Dimanch 12 Jyen 2022.

พรรคของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง สูญเสียเสียงข้างมากในสภาล่าง การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศสรอบสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ ส่งแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองฝรั่งเศส ตามรายงานของเอพีและรอยเตอร์

ตามการคาดการณ์ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสภานิติบัญญัติของฝรั่งเศส รอบสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ พบว่า กลุ่มพันธมิตรสายกลางอองซอมเบลอ (Ensemble) ของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง จะได้ไป 230-250 ที่นั่ง ซึ่งน้อยกว่าระดับ 289 ที่นั่งเพื่อให้ได้ครองเสียงข้างมากในสภาล่าง

ก่อนหน้านี้ พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายของฝรั่งเศส Socialist Party และพรรคซ้ายจัด LFI (Insoumise Party) ตกลงเป็นพันธมิตรทางการเมืองในการชิงเก้าอี้ในการเลือกตั้ง ส.ส. ฝรั่งเศส ความร่วมมือดังกล่าวยังรวมถึงพรรค Green และพรรค Communist ของฝรั่งเศส เพื่อลดโอกาสที่พรรคของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็องจะได้ครองเสียงข้างมากในสภา และเพื่อสกัดนโยบายของประธานาธิบดีมาคร็องที่เอื้อต่อภาคธุรกิจ หลังจากที่เขาชนะเลือกตั้งเป็นผู้นำประเทศอีกสมัยเมื่อเดือนเมษายน

ในการเลือกตั้งล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ พันธมิตรใหม่ฝ่ายซ้าย นูเปส (Nupes) คาดว่าจะได้เสียงในสภา 140-160 ที่นั่ง ส่วนพรรคอนุรักษ์นิยมขวาจัด National Rally ของมารีน เลอ เปง คาดว่าจะได้ไปมากกว่า 80 ที่นั่ง

ส่วนการคาดการณ์จาก Ifop, OpinionWay, Elabe และ Ipsos ชี้ว่า กลุ่มพันธมิตรสายกลางอองซอมเบลอของปธน.มาคร็อง จะได้ไป 200-260 ที่นั่ง ขณะที่นูเปส ได้ไป 149-200 ที่นั่ง จากทั้งหมด 577 ที่นั่งในสภาล่าง

ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวจะผลักดันให้ฝรั่งเศสเข้าสู่ภาวะ รัฐสภาแขวน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนักในฝรั่งเศส โดยเหตุการณ์ในลักษณะที่พรรคของประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ของฝรั่งเศส ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาล่างได้นั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 1988 และผลการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ออกมานี้ ทำให้เป็นสิ่งที่ยังคาดเดาได้ยากสำหรับทิศทางการเมืองฝรั่งเศสในฉากต่อไป เพราะอาจทำให้ปธน.มาคร็องผลักดันนโยบายต่าง ๆ ได้ลำบากยิ่งขึ้น หรืออาจทำให้ปธน.มาคร็องตัดสินใจจัดการเลือกตั้งใหม่หากประสานความร่วมมือในสภาล่างไม่ได้

ในมุมมองของนักวิเคราะห์ คาดว่า ความล้มเหลวในศึกเลือกตั้ง ส.ส. ฝรั่งเศสครั้งนี้ จะทำให้ปธน.มาคร็องต้องใช้ช่วงเวลาที่เหลือในฐานะประธานาธิบดี ในการผลักดันนโยบายต่าง ๆ ในประเทศ มากกว่านโยบายด้านการต่างประเทศ และอาจหมายถึงจุดสิ้นสุดของปธน.มาคร็องในเวทีโลกด้วยเช่นกัน

  • ที่มา: เอพีและรอยเตอร์
XS
SM
MD
LG