สงครามในยูเครนทำให้ผู้หญิงชาวยูเครนได้มีโอกาสไปเรียนรู้วิธีเก็บกู้ทุ่นระเบิด หรือวัตถุระเบิดอย่างอื่นที่อาจหลงเหลืออยู่ ซึ่งเป็นทักษะที่พวกเธอมองว่าจะมีความสำคัญยิ่ง ในวันที่สงครามในบ้านเกิดสิ้นสุดลง
อนาสเตเชีย มินชูโควา เคยเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ในยูเครน แต่หญิงสาววัย 20 ปีผู้นี้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AP ว่าเธอไม่เคยนึกมาก่อนว่าสงครามในยูเครนจะทำให้ชีวิตเธอหักเห จนต้องมาเข้าคอร์สเรียนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดไกลถึงประเทศโคโซโว
มินชูโควากล่าวว่า ทักษะการเก็บกู้ทุ่นระเบิดนั้นเป็นที่ต้องการอย่างมาก เพราะสงครามในยูเครนจะสิ้นสุดในเร็ว ๆ นี้ เธอยังเชื่อว่าจะมีงานอีกมากที่ต้องทำ รออยู่ในยูเครน
การอบรมการกำจัดทุ่นระเบิดที่ว่านี้ใช้เวลา 18 วัน ในเมืองเปจา (Peja) ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศโคโซโว โดยบริษัท พราเดียม คอนซัลติ้ง มอลตา (Praedium Consulting Malta) ที่มีสำนักงานอยู่ที่ประเทศมอลตา โดยบริษัทดังกล่าวมักจะเปิดคอร์สนี้อยู่เสมอ ๆ เพื่อฝึกอบรมให้ผู้ที่กำลังหางานทำ บริษัทที่ทำงานในพื้นที่ที่เคยเกิดสงคราม องค์กรที่ให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาล
ประเทศโคโซโว นั้นมีประวัติการสู้รบอันเกิดความขัดแย้งทางเชื้อชาติระหว่าง กลุ่มแบ่งแยกดินแดนอัลเบเนียนและกองกำลังเซอร์เบีย ในช่วงปี พ.ศ. 2531-2532 ซึ่งการสู้รบในครั้งนั้นคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 13,000 คน และทิ้งทุ่นระเบิดไว้หลายพันลู่ก ทำให้ต้องมีการเก็บกู้และกำจัดออกไปในภายหลัง บริษัท พราเดียม คอนซัลติ้ง มอลตาจึงได้เข้ามากำจัดทุ่นระเบิด ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือน หรือแม้แต่วัชพืชที่เติบโตขึ้น
อาร์เทอร์ ทิกานี รับหน้าที่เป็นครูผู้สอน และยังได้จัดทำหลักสูตรเก็บกู้และกำจัดทุ่นระเบิดขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศของยูเครนโดยเฉพาะ เขากล่าวว่าเขารู้สึกดีใจที่ได้แบ่งปันประสบการณ์ของตนให้กับสตรีชาวยูเครน
ทิกานีเป็นเจ้าหน้าที่เก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีและมีประสบการณ์สูงและเคยทำงานเป็นวิศวกรในกองทัพยูโกสลาฟในอดีตเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน เขาได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดในโคโซโว ประเทศบ้านเกิดของเขา ซึ่งถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไป 23 ปีแล้ว ทิกานีบอกว่า เขายังจำได้แม่นยำถึงความยากลำบากเมื่อเขาต้องเร่ิมกำจัดกับระเบิดที่นั่น
นอกจากนี้ เขายังทำงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดในประเทศศรีลังกา ยูกันดา คองโก รวันดา และเคนยา และยังเป็นผู้สอนการทำลายกับระเบิดในซีเรียและอิรักอีกด้วย
ขณะนี้ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะประเมินว่ายูเครนจะมีทุ่นระเบิดและระเบิดที่ยังไม่ระเบิดมากน้อยเพียงใด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากความขัดแย้งในประเทศต่าง ๆ ในอดีต ก็พอจะทำให้เห็นภาพว่า ทุ่นระเบิด และวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด (unexploded ordnance) จะเป็นปัญหาใหญ่ของยูเครนหลังจากนี้
ในที่ประชุมของสหประขาชาติเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross) รายงานว่า ในแต่ละปีทุ่นระเบิดที่หลงเหลืออยู่ในหลายประเทศยังคงคร่าชีวิตและทำให้ประชาชนพิการสูญเสียอวัยวะหลายพันคน ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่คือเด็กและเยาวชน
คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศยังบอกด้วยว่า การค้นหาวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ที่อยู่ปะปนท่ามกลางซากปรักหักพัง และกับสิ่งของอื่น ๆ ที่เป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันนั้นเป็นงานที่อันตราย ยาก และใช้เวลานานมาก
มายน์ แอคชั่น รีวิว (Mine Action Review) ซึ่งเป็นองค์การแห่งหนึ่งของประเทศนอร์เวย์ที่ทำหน้าที่ติดตามดูผลการกำจัดระเบิดทั่วโลก รายงานว่าปัจจุบันมี 56 ประเทศทั่วโลกที่ยังมีวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดหลงเหลืออยู่ จากข้อมูลถึงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา โดยประเทศอัฟกานิสถาน กัมพูชา และอิรัก มีมากที่สุด ตามมาด้วยแองโกลา บอสเนีย ไทย ตุรกี และเยเมน
นักวิเคราะห์ทางทหารประเมินว่ากองกำลังรัสเซียจะใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและทุ่นระเบิดดักรถถัง ในขณะที่ยูเครนได้ใช้ทุ่นระเบิดดักรถถังเพื่อป้องกันไม่ให้กองกำลังรัสเซียรุกคืบเข้ามาได้
หลังจากที่รัสเซียบุกรุกโจมตียูเครน ชายชาวยูเครนที่มีอายุระหว่าง 18-60 ปี ถูกห้ามไม่ให้ออกนอกประเทศและส่วนใหญ่ได้ร่วมต่อสู้เพื่อป้องกันยูเครน ส่วนผู้หญิงหลายคนได้แสดงต้องการที่จะช่วยในทุกวิถีทางที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าในการเก็บกู้และกำจัดทุ่นระเบิดจะมีความเสี่ยงอยู่มากก็ตาม
หนึ่งในนั้นคือ ยูเลีย คาเทลิก คุณแม่ลูกสามวัย 38 ปีที่พาลูก ๆ ของเธอหลบหนีไปยังที่ที่ปลอดภัยในโปแลนด์ ก่อนที่จะกลับไปยูเครนอีกครั้งและเข้าร่วมการฝึกอบรมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เธอต้องการให้แน่ใจว่ายูเครนจะเป็นประเทศที่ปลอดภัยสำหรับลูก ๆ ของเธอ เมื่อพวกเขากลับไปยังบ้านเกิดที่เมืองครามาทอร์สค์ (Kramatorsk) ทางตะวันออกของยูเครน
คาเทลิกกล่าวว่าเธอหวังเพียงอย่างเดียวเท่านั้นว่าขอให้ครอบครัวได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง และขอให้ “ฝันร้ายนี้สิ้นสุดลง” โดยเธอชี้ว่าการที่สามารถค้นหาและกำจัดทุ่นระเบิดที่สามารถคร่าชีวิตผู้คนได้นั้น เป็นทักษะที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะต่อชีวิตของเด็ก ๆ
ศูนย์การฝึกอบรมเก็บกู้ระเบิดในโคโซโวมีแผนที่จะฝึกสอนกลุ่มสตรีชาวยูเครนให้มากขึ้น ทั้งในเมืองเปจา และในยูเครน โดยทิกานี ผู้ฝึกสอนกล่าวว่าเขาเตรียมตัวจะไปยูเครนในเร็ว.ๆ นี้ และเปิดทำการฝึกอบรมทักษะการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในใจกลางสมรภูมิรบ
- ที่มา AP