ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้าร่วมงานเลี้ยงประจำปีของสมาคมผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ที่กลับมาจัดเป็นปกติอีกครั้งเมื่อค่ำคืนวันเสาร์ โดยไม่วายแซวอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และตัวเองในงานนี้ด้วย
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา งานเลี้ยงดังกล่าวถูกบดบังโดยสถานการณ์โควิดในสหรัฐฯ และปธน.ไบเดน เป็นผู้นำคนแรกในรอบ 6 ปีที่ตอบรับเชิญร่วมงานนี้ ขณะที่อดีตปธน.ทรัมป์ ปฏิเสธเข้าร่วมงานนี้มาตลอดที่ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ
ปธน.ไบเดน ที่ไม่ได้ร่วมงานช่วงทานมื้อค่ำ แต่กลับมาร่วมในช่วงท้ายของงานเลี้ยง และถอดหน้ากากขึ้นเวทีทักทายและต้อนรับผู้ได้รับรางวัลในงานเลี้ยงนี้อย่างอบอุ่น โดยเขาได้ขึ้นกล่าวบนเวที ท่ามกลางผู้ร่วมงาน 2,600 คนที่มีทั้งผู้สื่อข่าว เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ และบุคคลมีชื่อเสียงต่างๆ ที่มาร่วมงานว่า “ลองคิดว่าถ้าอดีตผู้นำสหรัฐฯ (ทรัมป์) มาร่วมงานมื้อค่ำปีนี้ดูสิครับ .. ตอนนี้คงกลายเป็นรัฐประหารจริงๆสินะ”
ผู้นำสหรัฐฯ ยังทดสอบทักษะด้านเดี่ยวไมโครโฟนของเขาในงานนี้อีกว่า รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาอยู่ที่นี่ในค่ำคืนนี้กับชาวอเมริกันที่ได้รับคะแนนนิยมต่ำกว่าตัวเขาเสียอีก ซึ่งเป็นการแซวตัวเองเรื่องคะแนนนิยมที่ตกต่ำนับตั้งแต่รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯมา และยังแซวถึงสโลแกน “Let's Go Brandon” ซึ่งใช้แทนคำผรุสวาทถึงไบเดนของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันด้วย
ขณะที่เทรเวอร์ โนอาห์ พิธีกรตลกผิวสีที่รับหน้าที่พิธีการงานนี้ แซวผู้นำสหรัฐฯ ด้วยว่า ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมได้รับเลือกมาเป็นพิธีกรงานนี้ จนกระทั่งได้ยินมาว่า ไบเดนจะได้คะแนนนิยมกระเตื้องขึ้นถ้ามีคนแอฟริกันอเมริกันยืนอยู่ข้างกายนั่นเอง
นอกจากประเด็นเรียกเสียงหัวเราะแล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ยังพูดถึงความสำคัญของบทบาทสื่อมวลชนต่อประชาธิปไตยของอเมริกา โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้ และว่าสื่อมวลชนคือผู้พิทักษ์ความจริง
งานเลี้ยงประจำปีของสมาคมผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว เริ่มต้นขึ้นในปี 1921 และ 3 ปีจากนั้น ประธานาธิบดีแคลวิน คูลิดจ์ (Calvin Coolidge) เป็นผู้นำสหรัฐฯคนแรกที่เข้าร่วมงานนี้ จะเป็นงานที่ผู้นำสหรัฐฯ จะตอบรับคำเชิญเข้าร่วม และเป็นเป้าหมายการถูกแซวถูกเผาในประเด็นร้อนต่างๆ เพื่อเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ร่วมงาน
- ที่มา: เอพี