ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์บางคนแสดงความกังวลว่า มาตรการป้องกันโควิด-19 เช่น การสวมหน้ากากอนามัย และการเรียนทางไกล อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กอ่อนแอลงได้ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอาการเจ็บป่วยตามปกติในวัยเด็ก
ซาร่า ซอว์เยอร์ (Sara Sawyer) ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาระดับโมเลกุล เซลล์ และพัฒนาการที่มหาวิทยาลัย University of Colorado Boulder กล่าวว่า มีเหตุผลมากมายหลายประการที่เชื่อได้ว่า เด็ก ๆ จำเป็นต้องสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ เพื่อรักษาภูมิคุ้มกันที่ซับซ้อน ดังนั้นหากต้องเจอกับสิ่งที่เป็นอันตรายมาก ๆ เด็กก็จะมีภูมิคุ้มกันที่ช่วยปกป้องพวกเขาจากสิ่งที่เป็นอันตรายเหล่านั้น
เมื่อแรกเกิด ทารกที่มีความเปราะบางจะได้รับสารภูมิต้านทานจากน้ำนมแม่ ซึ่งช่วยปกป้องพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันของตนเองได้ และไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่เด็ก ๆ จะหยิบของเข้าปากทันทีที่มีทักษะเพียงพอที่จะหยิบจับได้
ซอว์เยอร์กล่าวต่อไปว่า การที่เด็ก ๆ ทำเช่นนั้นเป็นเพราะพวกเขากำลังสำรวจสิ่งแวดล้อมและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นวิวัฒนาการของเด็ก ๆ นอกจากนี้พวกเขาปล่อยให้ร่างกายได้สัมผัสกับเชื้อโรคในระดับหนึ่งเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่า อาการเจ็บป่วยในวัยเด็ก เช่น ไข้หวัด และไวรัสลงกระเพาะ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เพื่อที่ว่าเมื่อมีสิ่งที่เป็นอันตรายเข้ามา ร่างกายก็พร้อมรับและจะไม่เจ็บป่วยจากสิ่งที่อันตรายมากกว่านั้น
แม้กระทั่งก่อนการเกิดโรคระบาดใหญ่ หลักฐานทางระบาดวิทยาได้ชี้ให้เห็นว่าเด็กในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งมีการล้างมือและการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อกันแพร่หลายมากขึ้น อาจมีการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันที่น้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเด็กในประเทศกำลังพัฒนาที่สัมผัสกับแบคทีเรีย ไวรัส และสารก่อภูมิแพ้อยู่เป็นประจำ
เรื่องดังกล่าวทำให้เด็ก ๆ ในประเทศอุตสาหกรรมเสี่ยงต่อการพัฒนาโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของตนซึ่งสอดคล้องกับ "สมมติฐานด้านสุขอนามัย"
โคดี้ วอร์เรน (Cody Warren) นักไวรัสวิทยาและนักภูมิคุ้มกันวิทยาจากมหาวิทยาลัย University of Colorado Boulder กล่าวว่า สมมติฐานด้านสุขอนามัยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างขัดแย้งกัน เพราะการที่ร่างกายได้รับจุลินทรีย์ไม่ใช่เพียงปัจจัยเดียวในการสร้างภูมิคุ้มกัน แต่อาจถูกกำหนดโดยพันธุกรรม อาหาร และสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่ อีกด้วย
วอร์เรน ซึ่งเป็นคุณพ่อลูกสาม กล่าวว่า การใช้เวลานอกบ้านให้มากเป็นวิธีหนึ่งในการปรับสมดุลด้านลบของการแยกตัวออกจากสังคม นอกจากนี้ การสำรวจจุลินทรีย์ในสิ่งแวดล้อมก็เป็นประโยชน์และเป็นการฝึกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วย และว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคนเราได้รับการฝึกฝนผ่านอาหารที่เราทานเข้าไปซึ่งมีจุลินทรีย์อยู่ด้วย ดังนั้นเขาเชื่อว่าระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายของเราจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้
อย่างไรก็ดี ยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่ผู้ปกครองสามารถทำได้เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่บุตรหลานของตนในช่วงการระบาดใหญ่
วอร์เรนกล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่สามารถทำได้ก็คือการฉีดวัคซีนให้ครบ นั่นเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่เราต้องฝึกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการให้ลูกหลานรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหาวิธีควบคุมความเครียด
เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแนะนำว่าไม่จำเป็นอีกต้องสวมหน้ากากอนามัยอีกต่อไป ซอว์เยอร์คิดว่าการชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการเลิกสวมหน้ากากจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปกครองที่ยังลังเลใจเพราะกังวลว่าลูกจะป่วย
เธอกล่าวอีกว่า ควรมีการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับเหตุผลต่าง ๆ ที่ควรเลิกสวมหน้ากาก เช่น การที่เด็กๆ ได้มีอาการเจ็บป่วยในวัยเด็กที่ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อกลับไปใช้ชีวิตตามปกติที่โรงเรียน โดยข้อดีของอาการเจ็บป่วยในวัยเด็กก็คือ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่สามารถปกป้องเด็กจากสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้