การศึกษาของหน่วยงานรัฐชี้ว่า ระดับนำ้ทะเลตามชายฝั่งของสหรัฐฯ ในอีก 30 ปีจากนี้อาจสูงขึ้นด้วยความรวดเร็ว จนมีปริมาณเทียบได้กับระดับที่สูงขึ้นช่วง 100 ปี ในศตวรรษที่ 20
หน่วยงานด้านสภาพมหาสมุทรและบรรยากาศโลกของสหรัฐฯ ที่ชื่อว่า National Oceanic and Atmospheric Administration หรือ NOAA ระบุว่ามีหลายเมืองในภาคตะวันออกของประเทศที่อาจเผชิญความเสี่ยงสูงในเรื่องดังกล่าว
NOAA ระบุในรายงานความยาว 11 หน้าว่า ภายในปี 2050 หรือ 28 ปีจากนี้ ระดับนำ้ทะเลตามชายฝั่งของอเมริกาอาจสูงขึ้น 10 ถึง 12 นิ้ว และบางส่วนของรัฐหลุยส์เซียนา และเท็กซัสอาจมีระดับนำ้สูงขึ้นหนึ่งฟุตครึ่ง
การประเมินสะท้อนว่าในช่วงเวลาดังกล่าวระดับนำ้ทะเลสูงขึ้นเทียบได้กับช่วงศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับนำ้ที่ชายฝั่งมหาสมุทรแอตเเลนติกเพิ่มในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 2,000 ปี
รายงานระบุว่าผลทางเศรษฐกิจต่ออเมริกาอาจเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางเพราะร้อยละ 40 ของประชากรอเมริกันอยู่ตามแนวชายฝั่ง
ผู้เชี่ยวชาญที่เขียนรายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า สำหรับผลระยะยาวที่รุนเเรงที่สุดจากการละลายของแผ่นนำ้เเข็งที่เเอนตาร์กติกและกรีนเเลนด์ อาจยังไม่เห็นชัดเจนจนกระทั่งผ่านปี 2100 ไปแล้ว
แม้จะดูว่าไกลจากปัจจุบัน แต่นักวิชาการ แอนเดรีย ดัทตัน จากมหาวิทยาลัย University of Wisconsin-Madison เปรียบเทียบว่า ปรากฏการณ์นี้เหมือนกับรถไฟกำลังมุ่งหน้ามาเข้าชนบ้านของเรา ซึ่งเธอตั้งคำถามว่าเราจะนิ่งดูดายอย่างนั้นหรือ
รายงานของ NOAA ระบุว่า ณ สิ้นสุด ศตวรรษที่ 21 ระดับนำ้ทะเลโดยเฉลี่ยของสหรัฐฯอาจจะเพิ่มถึง 2 ฟุต โดยชายฝั่งด้านตะวันออกมีความเสี่ยงมากกว่าด้านตะวันตก
