ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เปิดตัวยุทธศาสตร์ใหม่ที่ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่าเป็นแผนงานระดับชาติ “ฉบับแรกของประเทศ” ในการต่อสู้กับการก่อการร้ายในผืนแผ่นดินอเมริกัน
ปธน.ไบเดน ออกแถลงการณ์ในวันอังคารที่พูดถึงยุทธศาสตร์ต่อต้านการก่อการร้ายที่ชื่อ National Strategy for Countering Domestic Terrorism ว่าเป็นแผนงานที่มีจุดประสงค์ที่จะปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ของสหรัฐฯและการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการก่อการร้ายในประเทศให้กับหน่วยงานรักษากฎหมายในทุกระดับ
ผู้นำสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า ปัจจัยสำคัญที่ประกอบขึ้นมาเป็นยุทธศาสตร์ คือ การป้องกันการหาสมาชิกผู้ร่วมงานก่อการร้ายและการเคลื่อนย้ายของกลุ่มต่างๆ รวมทั้งการขัดขวางและการสกัดกั้นกิจกรรมทั้งหลายของกลุ่มก่อการร้าย
ในแถลงการณ์ล่าสุดนี้ ปธน.ไบเดน กล่าวย้ำว่า “เหตุก่อการร้ายภายในประเทศที่มีจุดกำเนิดมาจากความเกลียดชัง ทัศนคติความเกลียดชังที่ไม่มีเหตุผล และแนวคิดสุดโต่งต่างๆ นั้น เป็นจุดด่างพร้อยในจิตวิญญาณของอเมริกา ทั้งยังหักล้างทุกอย่างที่ประเทศแห่งนี้พยายามต่อสู้เพื่อให้ได้มาและคงไว้ รวมทั้งเป็นความท้าทายโดยตรงต่อความมั่นคง ประชาธิปไตยและความสามัคคีภายในประเทศด้วย”
การเปิดเผยยุทธศาสตร์ล่าสุดของรัฐบาลชุดปัจจุบันของสหรัฐฯ นี้มีออกมาหลังเกิดเหตุการจลาจลโดยกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่บุกเข้ายึดอาคารรัฐสภาเมื่อเกือบ 6 เดือนที่แล้ว ขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสกำลังลงมติรับรองผลการเลือกตั้งที่ประกาศให้ ปธน.ไบเดน เป็นผู้ชนะ ซึ่งเป็นผลที่อดีตปธน.ทรัมป์ ปฏิเสธที่จะยอมรับ
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลรายหนึ่งที่อ้างข้อมูลจากรายงานของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า การก่อเหตุโดยกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งในสหรัฐฯ กลายมาเป็นภัยคุกคามที่ขยายวงกว้างมากขึ้นในปีนี้ โดยองค์กรที่เป็นกลุ่มลัทธิชาตินิยมขวาจัดและกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาล คือ พวกที่มาพร้อมกับความเสี่ยงมากที่สุด
