ลิ้งค์เชื่อมต่อ

‘ไบเดน’ ประกาศบริจาควัคซีนโควิดเพิ่ม 500 ล้านโดส ให้ประเทศกำลังพัฒนา


US President Joe Biden convenes a virtual COVID-19 Summit on the sidelines of the UN General Assembly, on Sept. 22, 2021, in the South Court Auditorium of the White House in Washington.
US President Joe Biden convenes a virtual COVID-19 Summit on the sidelines of the UN General Assembly, on Sept. 22, 2021, in the South Court Auditorium of the White House in Washington.

เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศว่า สหรัฐฯ จัดซื้อวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอนเท็คเพิ่มอีก 500 ล้านโดสให้ประเทศกำลังพัฒนาภายในปีหน้า

ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ประกาศว่า จะบริจาควัคซีนของทั้งสองบริษัท 500 ล้านโดสให้ประเทศกำลังพัฒนาภายในสิ้นเดือนมิถุนายนปีหน้า เท่ากับว่า สหรัฐฯ จะบริจาควัคซีนรวมทั้งสิ้น 1 พันล้านโดส

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทวีตข้อความเมื่อวันพุธว่า สหรัฐฯ บริจาควัคซีนเป็นจำนวนสามเท่ามากกว่าจำนวนวัคซีนที่สหรัฐฯ ฉีดให้ชาวอเมริกันจนถึงขณะนี้


ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศบริจาควัคซีนระหว่างการประชุมสุดยอดออนไลน์ด้านโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นการประชุมคู่ขนานของการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ

คาดว่า ปธน. ไบเดน จะปฏิบัติตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่ตั้งเป้าฉีดวัคซีนประชากรโลกให้ได้อย่างต่ำ 70 เปอร์เซ็นต์ ภายในปีหน้า และเชิญชวนให้ประเทศร่ำรวยเพิ่มความพยายามควบคุมการระบาดให้มากขึ้น

เมื่อเดือนมิถุนายน นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ระบุว่า การปฏิบัติตามเป้าหมายฉีดวัคซีนดังกล่าวจำเป็นต้องใช้วัคซีน 11,000 ล้านโดส

ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่สหประชาชาติเมื่อวันอังคาร ปธน. ไบเดนระบุว่า สหรัฐฯ บริจาควัคซีนกว่า 160 ล้านโดสให้ประเทศกว่า 100 ประเทศ ซึ่งเป็นจำนวนวัคซีนที่บริจาคมากกว่าวัคซีนบริจาคจากประเทศอื่น ๆ รวมกัน

ในช่วงปีที่ผ่านมา มีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 5,900 ล้านโดสทั่วโลก ให้ประชากรทั่วโลกราว 43 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ความไม่เท่าเทียมกันในการจัดสรรวัคซีนทำให้ประเทศรายได้ต่ำหลายประเทศเผชิญปัญหาในการฉีดวัคซีนให้กลุ่มประชากรที่เปราะบางที่สุด

ผู้นำประเทศต่าง ๆ และบรรดาองค์กรระหว่างประเทศ ให้ความสำคัญมากขึ้นต่อความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าถึงวัคซีน รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนที่เป็นไปอย่างล่าช้า และแม้สหรัฐฯ จะประกาศบริจาควัคซีน แต่สหรัฐฯ ก็ถูกวิจารณ์ว่ายังให้ความสำคัญต่อประเด็นนี้ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะจากที่สหรัฐฯ ผลักดันให้ชาวอเมริกันได้รับวัคซีนเข็มสามก่อนที่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในประเทศที่ยากจนกว่า จะได้รับวัคซีนเข็มแรกด้วยซ้ำ

(เนื้อหาบางส่วนจากสำนักข่าว The Associated Press และสำนักข่าว Reuters)

XS
SM
MD
LG