ลิ้งค์เชื่อมต่อ

วิกฤติไฟฟ้าดับในจีนลุกลาม! โรงงานปิด-เศรษฐกิจเสียหายหนัก


FILE PHOTO: FILE PHOTO: A man walks near a coal-fired power plant in Harbin, Heilongjiang province, China November 27, 2019. Picture taken November 27, 2019. REUTERS/Jason Lee/File Photo/File Photo
FILE PHOTO: FILE PHOTO: A man walks near a coal-fired power plant in Harbin, Heilongjiang province, China November 27, 2019. Picture taken November 27, 2019. REUTERS/Jason Lee/File Photo/File Photo

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปัญหาไฟฟ้าดับกำลังขยายไปในหลายพื้นที่ทั่วประเทศจีน ส่งผลให้การผลิตตามโรงงานต่าง ๆ ต้องหยุกชะงัก รวมทั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนให้กับบริษัทแอปเปิล (Apple) และเทสลา (Tesla)

เวลานี้ จีนกำลังประสบปัญหาขาดแคลนถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า ประกอบกับการเพิ่มมาตรฐานด้านการปล่อยมลพิษ และความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นในภาคการผลิตและอุตสาหกรรม ทำให้ราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุด

ทางการส่วนท้องถิ่นในหลายเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือใช้วิธีระงับการจ่ายไฟในช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟฟ้ามากที่สุดตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดไฟ ขณะที่สื่อทางทางการจีนรายงานว่า ช่วงเวลาการตัดไฟเริ่มเร็วขึ้นและนานขึ้นเรื่อย ๆ

ในวันจันทร์ บรรษัทการไฟฟ้าจีน สัญญาว่าจะจ่ายไฟให้ตามความจำเป็นและจะหลีกเลี่ยงการตัดไฟ ขณะที่สำนักงานพลังงานแห่งชาติได้แจ้งไปยังบริษัทถ่านหินและก๊าซธรรมชาติให้รับประกันว่าจะมีพลังงานเพียงพอสำหรับใช้สร้างความอบอุ่นตามบ้านเรือนต่าง ๆ ในช่วงฤดูหนาวปีนี้ด้วย

ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า ปัญหาไฟฟ้าดับนี้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อโรงงานต่าง ๆ ในหลายพื้นที่ของจีน และอาจส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจจีนในปีนี้ชะลอตัวลง โดยธนาคารมอร์แกนสแตนลีย์ คาดการณ์ว่า จีดีพีของจีนในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้อาจหายไป 1% หากปัญหาไฟฟ้าดับดังกล่าวยืดเยื้อต่อไป

แผนลดการใช้ถ่านหินของรัฐบาลจีน

ปัจจุบัน จีนคือผู้ใช้พลังงานมากที่สุดในโลก และเป็นผู้ปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เป็นสาเหตุของปรากฏการณ์เรือนกระจกมากที่สุดในโลกเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนประกาศว่าจะลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงเหลือศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2060 และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ประกาศที่การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติว่า จีนจะยุติการสนับสนุนทางการเงินแก่โรงงานที่ใช้ถ่านหินในต่างประเทศ

โจแอนนา ลิวอิส ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและสภาพภูมิอากาศแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ กล่าวว่า คำประกาศนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะปัจจุบันจีนคือผู้สนับสนุนด้านเงินทุนรายใหญ่สำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศต่าง ๆ โดยข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ระหว่างปี ค.ศ. 2013 - 2019 จีนอุดหนุนทางการเงินราว 13% ให้แก่โรงไฟฟ้าถ่านหินนอกประเทศจีน ซึ่งมากกว่าประเทศอื่น ๆ หลายเท่า

อย่างไรก็ตาม คุณไบฟอร์ด เจิ้ง นักวิเคราะห์แห่งสถาบัน E3G ระบุว่า แม้จีนได้เลิกสนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศอื่น แต่จำนวนโรงไฟฟ้าถ่านหินในจีนเองกลับเพิ่มขึ้นจำนวนมากเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งการที่นโยบายใหม่ของรัฐบาลปักกิ่งจะได้ผลนั้นจำเป็นต้องมีการหยุดสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในจีนเองพร้อมไปกับการไล่ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินเก่า ๆ ด้วย

XS
SM
MD
LG