กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มีแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่า ได้เพิกถอนวีซ่าของนักศึกษาจีนไปแล้วมากกว่า 1,000 คน เนื่องจากพิจารณาแล้วว่า "มีความเสี่ยงสูง" ต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า การเพิกถอนวีซ่าครั้งนี้เป็นไปตามคำประกาศที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามไว้เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม โดยมุ่งเป้าไปที่นักเรียนชาวจีนที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพปลดแอกประชาชนจีน
ที่ผ่านมา รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวหาว่านักศึกษาจีนนั้นเข้ามาในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายขโมยทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับจีนทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า นักศึกษาและนักวิจัยชาวจีนกว่า 1,000 คนที่ถูกเพิกถอนวีซ่าตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนั้น เป็นเพียงส่วนน้อยของพลเมืองจีนมากกว่า 360,000 คน ที่ศึกษาอยู่ในสหรัฐฯ
และกล่าวว่า "กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยินดีต้อนรับนักศึกษาและนักวิชาการจากจีนที่ไม่มีแนวคิดทำตามจุดมุ่งหมายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการครอบครองด้านการทหาร"
ทางด้านรัฐบาลจีนกล่าวตอบโต้ในวันพฤหัสบดีว่า การกระทำของรัฐบาลสหรัฐฯ คือการข่มเหงทางการเมืองและเลือกปฏิบัติด้านเชื้อชาติและสีผิว
การยกเลิกหรือเพิกถอนวีซ่าเป็นหนึ่งในมาตรการที่สหรัฐฯ และจีน นำมาตอบโต้กันในขณะที่กำลังเกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ของสองประเทศนี้ สืบเนื่องจากหลายกรณี ตั้งแต่สงครามการค้า การระบาดของโควิด-19 การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการประท้วงในฮ่องกง