มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ประกาศยืนยันไม่รับนักศึกษาใหม่จากต่างประเทศเข้าชั้นเรียนในปีการศึกษาที่จะเริ่มขึ้นเดือนหน้า เนื่องจากกฎระเบียบใหม่ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่ห้ามนักศึกษาต่างชาติทำการเรียนผ่านระบบออนไลน์ขณะอยู่ในสหรัฐฯ
การตัดสินใจไม่รับนักศึกษาต่างชาติในปีการศึกษาหน้าของทั้งสองมหาวิทยาลัยชั้นนำนี้มีผลบังคับใช้เฉพาะนักศึกษาที่จะเข้าเรียนในปีแรกเท่านั้น แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะกลับลำยกเลิกการห้ามนักศึกษาต่างชาติเรียนผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 1 วิชาแล้วก็ตาม
ราคาช คูรานา คณบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ให้รายละเอียดในประกาศที่ออกมาเมื่อวันอังคารว่า เหตุผลที่ทางมหาวิทยาลัยฯ ต้องปฏิเสธรับนักศึกษาใหม่ เป็นเพราะ การยกเลิกคำสั่งห้ามของรัฐบาลสหรัฐฯ นั้น ยังมีผลบังคับใช้ต่อนักศึกษาต่างชาติที่ผ่านกระบวนการสมัครเรียนและมีกำหนดเข้าเรียนเป็นครั้งแรก และต้องใช้วีซ่าประเภท F-1 อยู่
ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ระบุในเว็บไซต์ของตนว่า ทางมหาวิทยาลัยฯ ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับหลักปฏิบัติที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ออกมาใช้กับนักศึกษาต่างชาติ ที่ยังไม่ได้เดินทางเข้ามาในสหรัฐฯ เว้นแต่จะสามารถยืนยันว่า มีแผนเข้าเรียนในชั้นเรียนตลอดปีการศึกษา และย้ำว่า มหาวิทยาลัยฯ ได้พยายามศึกษาข้อกฎหมายทุกข้อแล้ว แต่ก็ต้องผิดหวังกับการที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิไม่สามารถยืนยันอธิบายให้ความกระจ่างและหยิบยื่นความยืดหยุ่นให้นักศึกษาใหม่ และมหาวิทยาลัยทั้งหลายในช่วงที่ทั่วโลกยังประสบปัญหาภาวการณ์ระบาดใหญ่นี้อยู่
ในการประชุมรวมแบบ town hall ของนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม นักศึกษาหลายคนได้สอบถามฝ่ายธุรการของมหาวิทยาลัย ว่าจะสามารถจัดการเรียนการสอนแบบลูกผสม กล่าวคือ ทั้งการเรียนในชั้นเรียนและการเรียนผ่านระบบออนไลน์ ได้หรือไม่ ก่อนที่ คณบดี คูรานา จะออกมาอธิบายว่า สถานการณ์ความไม่แน่นอนทั้งด้านนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ และการระบาดของโควิด-19 ทำให้เชื่อว่า การจัดการเรียนการสอนแบบลูกผสม อาจะส่งผลเสียต่อนักศึกษาต่างชาติในอนาคตรวมทั้งมีความเสี่ยงต่อทุกคนในมหาวิทยาลัยด้วย
ทั้งนี้ คณบดี คูรานา กล่าวเสริมว่า นักศึกษาต่างชาติชั้นปีที่ 1 อาจเลือกเรียนผ่านระบบออนไลน์จากประเทศของตน หรือเลื่อนแผนการเข้าเรียนไปก่อน ซึ่งเป็นข้อเสนอแบบเดียวกับของมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย
