Your browser doesn’t support HTML5
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนสหรัฐฯ ออกจากความตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านที่รัฐบาลก่อนหน้าทำไว้เมื่อ 3 ปีก่อน เพื่อต่อรองให้รัฐบาลเตหะรานลดทอนศักยภาพด้านนิวเคลียร์
ประธานาธิบดีทรัมป์ให้เหตุผลว่า ความตกลงที่ทำไว้ในสมัยอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ฉบับนี้ เป็นข้อตกลงที่สร้างความเสียหาย และไม่ได้หยุดยั้งอิหร่านจากการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อประชาคมโลก
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าสหรัฐฯ กลับมาใช้ "มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจระดับสูงสุด" ต่ออิหร่าน เขาบอกว่าตนเองเปิดกว้างที่จะให้เกิดการเจรจาครั้งใหม่ เพื่อลดการทดลองขีปนาวุธของอิหร่านและลดบทบาทของอิหร่านในซีเรีย เยเมน และประเทศอื่นๆในตะวันออกกลาง
ก่อนหน้านี้รัฐบาลเตหะรานกล่าวว่า ไม่สนใจที่จะเจรจาใหม่ให้เกิดข้อตกลงอีกฉบับ
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์สั้นๆ ที่ตอนหนึ่งระบุว่า ความตกลงเดิม "เสื่อมสภาพและเน่าเสีย" ไปแล้ว
คลิปแถลงการณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า เป็นเรื่องไม่จริงที่อิหร่านมีความต้องการเพียงแค่ใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในทางที่สันติ
"คำสัญญาของอิหร่านเป็นคำโกหก" โดนัลด์ ทรัมป์กล่าว
การตัดสินใจครั้งนี้ของโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นไปตามสิ่งที่เขาเคยให้สัญญากับประชาชนเมื่อตอนหาเสียงเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี ค.ศ. 2016 แต่ถือเป็นการปฏิเสธคำขอร้องจากพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ 3 ประเทศ ที่ประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี
สามประเทศดังกล่าวยังคงรักษาสถานของพวกตนในข้อตกลงกับอิหร่าน ซึ่งมีรัสเซียและจีนร่วมอยู่ด้วย
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาคร็อง เขียนลงทวิตเตอร์ว่า "ฝรั่งเศส เยอรมนีและอังกฤษ เสียใจต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ"
France, Germany, and the UK regret the U.S. decision to leave the JCPOA. The nuclear non-proliferation regime is at stake.
— Emmanuel Macron (@EmmanuelMacron) May 8, 2018
องค์การ International Atomic Energy Agency ที่ตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ ยืนยันถึง 10 ครั้งก่อนหน้านี้ว่าอิหร่านทำตามข้อตกลงกับมหาอำนาจ 6 ประเทศ
ขณะเดียวกัน คณะกรรมธิการยุโรปกล่าววันอังคารว่า ข้อตกลงกับอิหร่านได้ผลและรัฐบาลยุโรปมีความมุ่งหวังที่จะให้เกิดการทำตามเงื่อนไขของข้อตกลง
ประธานาธิบดี ฮัสซาน รูฮานีของอิหร่านกล่าวว่ารัฐบาลของตนจะยังคงรักษาสถานภาพของข้อตลง แม้สหรัฐฯจะถอนตัวออกไปก็ตาม
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์โจมตี นายจอห์น แคร์รี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ว่าพยายามแทรกแซงนโยบายการทูตของสหรัฐฯต่ออิหร่าน
The United States does not need John Kerry’s possibly illegal Shadow Diplomacy on the very badly negotiated Iran Deal. He was the one that created this MESS in the first place!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) May 7, 2018
หนึ่งในผู้นำโลกที่เห็นด้วยกับจุดยืนของโดนัลด์ ทรัมป์เรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน คือนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล
ประธานาธิบดีทรัมป์เคยระบุถึงจุดอ่อนของข้อตกลงกับอิหร่านว่า ขาดเงื่อนไขเกี่ยวกับการทดลองขีปนาวุธ
นอกจากนั้นเขายังไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่ว่าอิหร่านจะหมดความรับผิดชอบเมื่อถึงกำหนดเงื่อนเวลาที่ระบุไว้ ในเรื่องการลดทอนโครงการเสริมคุณภาพเเร่ยูเรเนียม
ในแถลงการณ์วันอังคาร ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ข้อตกลงปัจจุบันปล่อยให้อิหร่านเข้าใกล้การมีศักยภาพทางนิวเคลียร์ครั้งสำคัญ