องค์กรช่วยเหลือเด็ก เผย สมาชิกในกลุ่มถูกสังหารในเหตุโจมตีในเมียนมา

Myanmar

องค์กรช่วยเหลือเด็ก Save the Children เปิดเผยในวันอังคารว่า สมาชิกของตน 2 รายอยู่ในกลุ่มของเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีในพื้นที่ภาคตะวันออกของเมียนมาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางกลุ่มโทษว่าเป็นฝีมือของกองทัพเมียนมา

เหตุโจมตีล่าสุดในรัฐกะยา ของเมียนมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 คน และ อิงเกอร์ แอชชิง ผู้บริหารของ Save the Children ระบุในแถลงการณ์ว่า “ความรุนแรงต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งรวมถึง เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์นั้น เป็นสิ่งที่สุดจะทนได้ และการโจมตีอย่างไร้สตินี้ ถือเป็นการละเมิดกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศด้วย”

แอชชิง ยังกล่าวด้วยว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างโดดๆ โดยประชาชนในเมียนมาตกเป็นเป้าของเหตุการณ์รุนแรงมาตลอด และควรมีการจัดการกับเหตุเหล่านี้โดยด่วนทันที

ก่อนหน้านี้ กองทัพเมียนมากล่าวว่า กองกำลังของตนถูกโจมตี ขณะที่กำลังพยายามหยุดรถจำนวน 7 คันที่มุ่งหน้าไปยัง “เส้นทางที่น่าสงสัย” และ ซอว์ มิน ตุน โฆษกกองทัพ บอกกับสำนักข่าวสัญชาติฝรั่งเศสแห่งหนึ่งว่า เจ้าหน้าที่ทหารสังหารคนไปหลายคนในการปะทะที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน องค์กรป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karenni National Defense Force) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในพื้นที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า ผู้ที่ถูกสังหารในการปะทะนั้นไม่ใช่สมาชิกของตน แต่เป็นพลเรือนที่หนีตายมาจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้งต่างหาก

และเพื่อเป็นการตอบโต้เหตุสลดที่เกิดขึ้น องค์กร Save the Children ได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติสั่งคว่ำบาตรการขายอาวุธให้กับรัฐบาลทหารเมียนมาแล้ว

ขณะเดียวกัน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุในแถลงการณ์ว่า “การตั้งเป้าโจมตีผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่องค์กรด้านมนุษยธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และความโหดร้ายป่าเถื่อนของกองทัพ(เมียนมา) ที่แผ่ขยายเป็นวงกว้างไปยังประชาชนชาวพม่า ยิ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการลงโทษผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ”

(ข้อมูลบางส่วนมาจากสำนักข่าว เอพี และ เอเอฟพี)