ค่าเงินสกุลรูเบิลของรัสเซียร่วงหนักหลังนานาประเทศเดินหน้าลงโทษเครมลินที่สั่งกองทัพบุกยูเครน ส่งผลให้ผู้คนพากันเข้าแถวยาวตามธนาคารและตู้เบิกเงินอัตโนมัติทั่วรัสเซียในวันจันทร์ ขณะที่ ประชาชนทั่วไปต้องเตรียมตัวแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้
ค่าเงินรูเบิลลดลงหนักถึงราว 30% ในช่วงเช้าวันจันทร์ มาอยู่ที่ระดับ 105.27 รูเบิลต่อดอลลาร์ หลังรัฐบาลชาติตะวันตกประกาศมาตรการลงโทษที่ส่งผลให้ธนาคารบางแห่งของรัสเซียไม่สามารถเข้าถึงระบบชำระเงินระหว่างประเทศ SWIFT ได้ รวมทั้งจำกัดการใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียด้วย
รายงานข่าวระบุว่า หลังธนาคารกลางรัสเซียประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร่งด่วนในวันจันทร์จากระดับ 9.5% มาเป็น 20% รวมทั้งสั่งดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยพยุงธุรกิจธนาคาร ค่าเงินรูเบิลแข็งค่าขึ้นมาที่ 98.22 รูเบิลต่อดอลลาร์ในเวลาต่อมา
Your browser doesn’t support HTML5
สหรัฐฯ ขวางรัสเซีย ไม่ให้เข้าถึงทรัพย์สิน-เงินเก็บสกุลดอลลาร์
อย่างไรก็ดี กระแสความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการลงโทษรัสเซียนั้นทำให้ประชาชนจำนวนมากพากันไปใช้บริการที่ธนาคารและตู้เอทีเอ็มต่างๆ ติดต่อกันหลายวันแล้ว โดยมีการแบ่งปันข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์ว่า ผู้คนพากันถอนเงินจนหมดตู้ไปหลายแห่งด้วย
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานด้านขนส่งสาธารณะของมอสโกประกาศเตือนประชาชนว่า การใช้ระบบ แอปเปิลเพย์ (Apple Pay) กูเกิลเพย์ (Google Pay) และซัมซุงเพย์ (Samsung Pay) เพื่อซื้อตั๋วโดยสารต่างๆ นั้นอาจมีปัญหาใช้การไม่ได้ เนื่องจากธนาคาร วีทีบี (VTB) คือสถาบันการเงินแห่งหนึ่งที่ถูกดำเนินมาตรการลงโทษในครั้งนี้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ค่าเงินรูเบิลร่วงหนักนี้หมายถึงมาตรฐานการใช้ชีวิตของประชาชนชาวรัสเซียที่จะระส่ำ เพราะคนทั่วไปนั้นพึ่งพาสินค้านำเข้ากันมากมาย และค่าเงินที่อ่อนตัวย่อมส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งขึ้น ขณะที่ การเดินทางไปต่างประเทศก็จะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และเหตุปั่นป่วนทางเศรษฐกิจก็จะเริ่มรุนแรงขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ หากประเด็นราคาสินค้าพุ่งและปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานยกระดับขึ้นจนทำให้โรงงานในรัสเซียต้องปิดตัวลงในที่สุด