"อ้วน > ผอม" นักวิจัยชี้ประชากรโลกส่วนใหญ่อ้วนมากกว่าผอม นำโดยจีนและอเมริกา

FILE - Children exercise during a weight-losing summer camp in Shenyang, Liaoning province, China.

ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา โลกเราได้เปลี่ยนแปลงจากโลกที่จำนวนคนผอมมากกว่าคนอ้วน มาเป็นโลกที่มีคนอ้วนมากกว่าคนผอม

Your browser doesn’t support HTML5

Obesity Study

ผลการศึกษาชิ้นใหม่ชี้ว่า โลกเราปัจจุบันมีจำนวนคนอ้วนมากกว่าจำนวนคนผอม ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ตรงกันข้ามกันกับเมื่อ 40 ปีที่แล้ว

สาเหตุเกิดจากอะไรและมีทางแก้หรือไม่?

ทีมนักวิจัยจากภาควิชาการแพทย์มหาวิทยาลัย Imperial College London ชี้ว่า การศึกษาครั้งนี้ถือเป็นการศึกษาเกี่ยวกับปัญหาความอ้วนที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยเทียบระดับดัชนีมวลกายหรือ BMI ของคนวัยผู้ใหญ่ จำนวนเกือบ 20 ล้านคนจากทั่วโลก ตั้งเเต่ปี ค.ศ. 1975 – ปี 2014

ทีมนักวิจัยพบว่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ผู้ชายทั่วโลกมีอัตราความอ้วนเพิ่มขึ้นสามเท่าตัวจาก 3.2 เปอร์เซ็นต์เป็น 10.8 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้หญิง อัตราความอ้วนเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวจาก 6.4 เปอร์เซ็นต์เป็น 14.9 เปอร์เซ็นต์

ผลการศึกษานี้ชี้ว่า ในปีค.ศ. 2014 ตัวเลขที่ได้เเสดงว่ามีผู้ชาย 266 ล้านคนและผู้หญิง 375 ล้านคน ที่มีดัชนีมวลกายเกินเกณฑ์หรืออ้วน และชี้ว่ามนุษย์ทุกๆ คนมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัมครึ่งทุกๆ สิบปี ตั้งเเต่ปีค.ศ. 1975 หรือ 40 ปีที่แล้ว

ปัญหาความอ้วนรุนแรงยังสร้างความกังวลมากขึ้นด้วย

ทีมนักวิจัยพบว่า 2.3 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายและผู้หญิง 5 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวเกินกว่ามาตรฐานอย่างมาก โดยมีดัชนีมวลกายเกิน 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

ส่วนความอ้วนในระดับรุนแรงที่เป็นอุปสรรคต่อการทำกิจวัตรประจำวัน กระทบต่อ 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ชายทั่วโลก และ 2 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้หญิง

ทีมนักวิจัยกล่าวเพิ่มเติมว่า มีคนวัยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคอ้วนรุนแรงทั่วโลกในขณะนี้ 55 ล้านคน ส่วนอัตราการคนมีน้ำหนักตัวต่ำกว่าดัชนีมวลกายมาตรฐานหรือคนผอมได้ลดลงมาจาก 14 เปอร์เซ็นต์เป็น 9 เปอร์เซ็นต์ในผู้ชาย ส่วนในผู้หญิงลดลงมาจาก 15 เปอร์เซ็นต์เป็น 10 เปอร์เซ็นต์

คุณ Majid Ezzati สมาชิกอาวุโสของทีมวิจัยจากวิทยาลัย Imperial College London กล่าวว่า จำนวนคนทั่วโลกที่มีน้ำหนักตัวสูงจนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขากล่าวว่าปัญหาการเพิ่มขึ้นของคนที่อ้วนมากเกินไป มีความรุนแรงเกินกว่าที่จะเเก้ไขได้ด้วยการใช้ยา อาทิ ยาลดความดันโลหิตหรือการบำบัดเบาหวาน หรือการสร้างเลนสำหรับปั่นจักรยานเพิ่มขึ้น

นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขหลายอย่าง

เขากล่าวว่าจำเป็นต้องมีการจัดการกับปัญหานี้แบบองค์รวมในระดับทั่วโลก ตั้งเเต่เรื่องของราคาอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย เทียบกับราคาอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และการปรับภาษีน้ำตาลและอาหารแปรรูปให้สูงขึ้น เพื่อแก้ปัญหาความอ้วน

ทีมนักวิจัยชี้ว่า หากอัตราการมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นยังดำเนินอยู่อย่างนี้ต่อไป คาดว่าภายในปี ค.ศ. 2025 ราว 18 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายทั่วโลก และ 21 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงทั่วโลก จะกลายเป็นคนอ้วน

การศึกษานี้พบว่า จีนมีคนน้ำหนักตัวเกินมากกว่าประเทศอื่นๆ และสหรัฐฯ มีจำนวนคนที่เป็นโรคอ้วนอย่างรุนแรงมากที่สุด

ส่วนอินเดียและบังคลาเทศมีคนที่น้ำหนักตัวน้อยที่สุดในโลก นับเป็น 1 ใน 4 ของทั่วโลก

(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)