‘เฮติ’ รวบเพิ่มผู้ต้องสงสัยพร้อมชายอเมริกัน 2 คน เหตุสังหารประธานาธิบดี

Suspects in the assassination of Haiti's President Jovenel Moise sit on the floor handcuffed after being detained, at the General Direction of the police in Port-au-Prince, Haiti, July 8, 2021.

สำนักข่าว Associated Press รายงานว่าตำรวจเฮติจับกุมเพิ่มเติม ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีเฮติ โจเวเนล โมอิส อย่างอุกอาจในบ้านพัก โดยเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปจับตัวผู้ต้องสงสัยหลายคนที่พยายามบุกเข้าไปซ่อนในสถานทูตไต้หวัน และยังควบคุมตัวชายชาวเฮติ-อเมริกันสองคน รวมทั้งอดีตทหารประเทศโคลอมโบที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับการวางแผนสังหารครั้งนี้ด้วย

ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาิของเฮติ ลีออน ชาร์ลส์ กล่าวว่าตำรวจได้จับกุมตัวและฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว 17 คน พร้อมทั้งออกตามล่าผู้ต้องหาคนอื่นอีก 8 คน

หนังสือพิมพ์ภาษาฝรั่งเศส Le Nouvelliste รายงานในวันศุกร์โดยอ้างบทสัมภาษณ์ของ ผู้พิพากษา เคลมอง โนเอล ว่า นายเจมส์ โซลาจส์ (James Solages) และโจเซพ วินเซนต์ (Joseph Vincent) สองผู้ต้องหาชาวเฮติ-อเมริกัน ที่ถูกจับกุม ให้การว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีแผนที่จะจับกุมตัว ประธานาธิบดีเฮติ ไว้เท่านั้น โดยไม่ได้ตั้งใจจะลงมือสังหาร ผู้พิพากษาคนดังกล่าวยังบอกอีกว่า นายโซลาจส์ และนายวินเซนต์ ทำหน้าที่เป็นล่ามให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ

การบุกสังหารประธานาธิบดีโมอิสในบ้านพักก่อนรุ่งสางของวันพุธ ซึ่งทำให้ภรรยาของโมอิสได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยนั้น สร้างความตกตะลึงให้กับชาวเฮติ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ ที่กำลังรุมเร้าประเทศ เช่น ความยากจน การใช้ความรุนแรง และความไม่มั่นคงทางการเมือง

Suspects in the assassination of Haiti's President Jovenel Moise

รักษาการนายกรัฐมนตรีเฮติ คล้อด โจเซฟ ประกาศสถานการณ์ที่ต้องเข้าควบคุมพื้นที่ หรือ State of Siege เป็นเวลาสองสัปดาห์ และขอให้ประชาชนกลับไปทำงานและเปิดกิจการตามปกติ นายโจเซฟยังได้สั่งให้เปิดทำการสนามบินนานาชาติอีกครั้ง

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่าได้รับทราบแล้วว่ามีชายชาวเฮติ-อเมริกันอยู่ในการควบคุมของทางการ แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว

นายโซลาจส์ มีอายุ 35 ปี เรียกตัวเองว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ทางการทูตที่ผ่านการรับรองแล้ว” และยังอ้างว่าเป็นนักรณรงค์เพื่อเด็ก และเป็นนักการเมืองมือใหม่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวปรากฎบนเว็บไซต์การกุศลที่เขาก่อตั้งขึ้นเมื่อสองปีก่อนในฟลอริดา เพื่อช่วยเหลือชาวเมือง Jacmel บ้านเกิดของเขา ในชายฝั่งทางใต้ของเฮติ ซึ่งเว็บดังกล่าวได้ถูกลบทิ้งไปแล้ว

นายโซลาจส์ยังได้ระบุด้วยว่าตนเคยทำงานเป็นผู้คุ้มกัน หรือ บอดี้การ์ดที่สถานทูตแคนาดาประจำเฮติ บนหน้าเฟสบุ๊คของตน โซลาจส์ยังเคยโพสต์ภาพของรถหุ้มเกราะทหาร และรูปของตัวเองยืนอยู่ข้างหน้าธงชาติอเมริกัน

แผนกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐบาลแคนาดา ออกแถลงการณ์โดยไม่ได้ระบุชื่อของโซลาจส์โดยตรง แต่ระบุว่าชายคนหนึ่งที่ถูกจับกุมตัวในฐานะผู้ต้องสงสัย “เคยได้รับการว่าจ้างให้เป็นบอดี้การ์ดสำรองอยู่ในระยะเวลาสั้น ๆ” ที่สถานทูต โดยเป็นการจ้างผ่านบริษัทเอกชน

ญาติคนหนึ่งของนายโซลาจส์ที่อาศัยอยู่ในทางใต้ของรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์ว่านายโซลาจส์ไม่ได้รับการฝึกทางทหารใด ๆ และยังบอกด้วยว่าเขาไม่เชื่อว่านายโซลาจส์จะเกี่ยวข้องกับการสังหารประธานาธิบดีเฮติ

ในขณะเดียวกัน สถานทูตไต้หวันในนครหลวงของเฮติ รายงานว่าตำรวจเฮติได้จับ 11 คนที่พยายามบุกเข้ามาในสถานทูตไต้หวันในตอนเช้าของวันพฤหัสบดี รายงานดังกล่าวไม่ได้ให้รายละเอียดว่า 11 คนนั้นเป็นใครบ้าง หรือแจงสาเหตุที่ทำให้มีการบุกเข้ามาในสถานทูต อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ดังกล่าว ระบุถึงกลุ่มชายเหล่านั้นว่าเป็น “ทหารรับจ้าง” และกล่าวประณาม “การสังหาร (ประธานาธิบดีเฮติ) ที่โหดร้ายและป่าเถื่อน”

ด้านรัฐบาลประเทศโคลอมเบียกล่าวว่าได้รับการติดต่อจากเฮติเพื่อสอบถามถึงผู้ต้องหาหกคน ซึ่งรวมถึงผู้ต้องหาสองในสามคนที่ถูกวิสามัญฆาตกรรม โดยให้ข้อมูลว่าผู้ต้องหาเหล่านั้นเป็นอดีตทหารที่เกษียณแล้ว และบอกว่าโคลอมเบียพร้อมจะให้ความร่วมมือรัฐบาลเฮติในการสืบสวนเรื่องนี้อย่างเต็มที่

ทหารโคลอมเบียที่ได้รับการฝึกโดยสหรัฐฯ เป็นบุคลากรที่เป็นที่ต้องการของบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพราะทหารเหล่านี้มีประสบการณ์หลายสิบปีในการทำสงครามกับกลุ่มกบฎฝ่ายซ้ายและผู้ค้ายาเสพติดที่ทรงอิทธิพล

A bystander points to a vehicle, perforated with bullets holes, parked outside the residence of Haitian President Jovenel Moise, in Port-au-Prince, Haiti, Wednesday, July 7, 2021.

นอกจากนั้น ยังมีพยานเห็นเหตุการณ์รายงานว่า ผู้ต้องสงสัยอีกสองคนซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ ก่อนจะถูกกลุ่มคนเฮติจับได้ โดยสองคนนั้นถูกลาก ถูกผลัก และถูกตบหน้า ก่อนจะถูกนำตัวส่งสถานีตำรวจ

ประชาชนชาวเฮติที่โกรธแค้นบางคนจุดไฟเผารถยนต์หลายคันที่มีรอยกระสุนโดยรอบที่ถูกจอดทิ้งไว้ เพราะเชื่อว่ารถดังกล่าวเป็นของผู้ต้องสงสัย โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของเฮติได้ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และห้ามไม่ให้ทำลายหลักฐาน

ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เปิดเผยข้อมูลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นถึงเหตุการลอบสังหารนายโมอิส โดยรายงานเพียงว่าการสังหารดังกล่าวเป็นการกระทำของ “กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการฝึกอย่างเชี่ยวชาญ”

อย่างไรก็ตาม มีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ไม่เชื่อการรายงานของรัฐบาล หลายคนโพสท์ในสื่อสังคมออนไลน์แสดงความสงสัย บางคนบอกว่ายากที่จะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยผู้ก่อเหตุที่ดูวางแผนมาอย่างดีนี้ได้อย่างง่ายดาย