อินเดียร้องขอให้บริษัทอินเตอร์เน็ทตรวจและกำจัดข้อความกับภาพออนไลน์ที่ส่อความทางลบ

  • Anjana Pasricha
    Thaksina Khaikaew

อินเดียร้องขอให้บริษัทอินเตอร์เน็ทตรวจและกำจัดข้อความกับภาพออนไลน์ที่ส่อความทางลบ

อินเดียออกคำเตือนแก่บริษัทต่างๆ อาทิ เฟสบุค และ กูเกิ้ล ว่าทางการจะเป็นผู้จัดการลบข้อความออนไลน์และภาพต่างๆจากผู้ใช้ที่มีเนื้อหาทางลบและเสื่อมเสียจากหน้าเว็ปไวท์ของบริษัทต่างๆหากทางบริษัทละเลยไม่จัดการในเรื่องนี้

นายกาปิล ไซบาล รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารของอินเดียชี้ว่าในช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมา ตนได้ร้องขอให้ตัวแทนของบริษัทอินเอตร์เน็ทยาฮู กูเกิ้ล เฟสบุคและไมโครซอฟทำการตรวจเช็คเนื้อหาและใจความของข้อเขียนตีพิมพ์ขึ้นหน้าเวปไซด์ของบริษัทโดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ท และให้ทำการลบทิ้งหากพบว่าไม่เหมาะสม หากไม่ทำตาม ทางการอินเดียจะเข้าไปจัดการเอง


นายกาปิล ไซบาล กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโ้อเอว่าทางการอินเดียต้องการให้บริษัทอินเตอร์เน็ทกรั่นกรองเนื้อหาและรูปภาพที่อาจจะกระทบต่อความละเอียดอ่อนทางความเชื่อทางศาสนาต่างๆ ทางการอินเดียต้องดูแลเรื่องความละเอียดอ่อนทางความเชื่อของคนในอินเดียและปกป้องเรื่องนี้ จะไม่ยอมให้มีการมีการใช้สื่อทางอินเตอร์เน็ตเป็นเวทีสร้างความร้าวฉานทางศาสนา

แม้เวลาจะผ่านไปหลายเดือนแล้วรัฐมนตรีการสื่อสารและเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารอินเดียบอกว่ายังไม่ได้รับความร่วมมือ เขาบอกว่าทางการอินเดียจะปล่อยให้บริษัทอินเตอร์เน็ตที่อยู่ตรงกลางยกมือยอมแพ้แล้วบอกว่าทำอะไรไม่ได้ ทางการอินเดียจะออกระเบียบแนวทางปฏิบัติและวิธีการกรั่นกรงข้อมูลและภาพต่างๆทางออนไลน์ที่มีความล่อแหลมทางศาสนาที่เผยแพร่โดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตแต่ปฏิเสธว่ามาตรการนี้ไม่ใช่การเซ็นเซอร์แต่เป็นการตรวจสอบควบคุมตัวเอง

ทางการอินเดียไม่พอใจที่มีการตีพิมพ์รูปภาพทางอินเตอร์เน็ต หมิ่นประมาทนางซอนย่า คานที หัวหน้าพรรคคองเกรส กับ นายแมนโมฮัน ซิง นายกรัฐมนตรีอินเดีย เป็นภาพที่มีการปรับแต่งให้เพื้ยนจากความจริง นอกจากนี้ยังมีหมิ่นเหม่ทางศาสนาอีกด้วย

ต่อเรื่องนี้ เฟสบุค ประกาศเป็นแถลงการณ์ว่า หน้าเวปไซท์เครือข่ายทางสังคมเป็นหน้าเวปไซท์ที่ผู้ใช้สามารถถกเรื่องต่างๆได้อย่างเสรีในขณะที่ต้องเคารพต่อสิทธิ์และความรู้สึกของผู้อื่น และทางเฟสบุคได้ระบุในหน้าเวปไซด์อยู่แล้วถึงนโยบายเรื่องนี้และเปืดโอกาสให้ผู้ใช้แจ้งให้ทางบริษัทรู้หากพบเจอข้อมูลที่มีเนื้อหาที่สร้างความเสื่อมเสีย นอกจากนี้ เฟสบุคยังแจ้งด้วยว่าจะประสานกับทางการอินเดียในเรื่องนี้

อินเดียมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ทถึง 100 ล้านคน นี่เป็นแค่สิบเปอร์เซ็นต์ของประชากรอินเดียทั่วประเทศเท่านั้น แต่ปริมาณข้อมูลที่ผู้ใช้ส่งขึ้นทางอินเตอร์เน็ทนั้นมากมามหาศาล สื่อมวลชนท้องถิ่นในอินเดียรายงานว่าทางบริษัทอินเตอร์เน็๋ททั้งหลายต่างบ่นว่า มาถึงตอนนี้ เป็นไปได้ไม่ได้ที่จะทำให้ได้อย่างที่ทางการอินเดียเรียกร้อง

ผู้สื่อข่าววีโอเอที่กรุงนิวเดลลี รานงายว่า ข้อเรียกร้องของทางการอินเดียนี้สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ใช้หน้าบล็อคเกอร์และหน้าทวิทเตอร์จำนวนมากในอินเดีย บางคนเขียนแสดงความคิดเห็นล้อเลียนตัวรัฐมนตรีการสื่อสารและเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารอินเดียว่าไม่เข้าใจอินเตอร์เน็ต

ทางการอินเดียเคยพยายามควบคุมการสื่อสารสมัยใหม่ด้วยการหาทางเข้าไปควบคุมการสื่อสารในเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ Blackberry ในตอนนั้นรัฐบาลอินเดียอ้างว่าเหตุผลด้านความมั่นคง