เสรีภาพสื่อในฮ่องกงดำดิ่งหลังกฎหมายความมั่นคงของรัฐบาลจีนมีผลบังคับใช้

Hong Kong

สถานภาพการเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสื่อที่มีเสรีระดับต้นๆ ในเอเชียของฮ่องกงพลิกกลับลงต่ำในสัปดาห์นี้ หลังรัฐบาลจีนเริ่มบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่กับเขตกึ่งการปกครองตนเองแห่งนี้ ที่มีรายงานเหตุการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างต่อเนื่องมากว่า 1 ปี

หลังได้เห็นเนื้อความของกฎหมายใหม่ฉบับนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่า ตัวบทกฎหมายที่มีความหมายกว้างๆ ครอบคลุมทุกอย่างในฮ่องกงและมีผลบังคับใช้กับทั้งชาวฮ่องกงและชาวต่างชาติ รวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ หมายถึง เสรีภาพในการพูดที่ถูกลดทอนลงอย่างรวดเร็ว

สตีเฟน บัตเลอร์ ผู้ประสานงานโปรแกรมเอเชียจาก Committee of Protect Journalists หรือ คณะกรรมการสากลเพื่อปกป้องนักข่าว ระบุว่า กฎหมายใหม่นี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลสามารถทำอะไรและเมื่อไหร่ก็ได้

สัญญาณแห่งความไม่แน่นอนได้เริ่มชัดเจนขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อชาวฮ่องกงจำนวนมากเริ่มดาวน์โหลด VPN (Virtual Private Network) หรือซอฟต์แวร์ที่จะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์ และหันมาใช้แอพส่งข้อความที่มีการเข้ารหัส เช่น Signal รวมทั้งทำการซ่อนกิจกรรมออนไลน์ต่างๆ ให้พ้นจากสายตาเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว

นอกจากนั้น เว็บไซต์บางแห่งยังลบโพสต์และบทความที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีน หรือแสดงความเห็นสนับสนุนความเป็นเอกราชใดๆ ก็ตาม ขณะที่ชาวฮ่องกงจำนวนมากลบบัญชีในสื่อสังคมออนไลน์ออกไปแล้วด้วย

รายงานข่าวระบุว่า สื่อหลักๆ หลายแห่งเริ่มเปลี่ยนวิธีการทำข่าวเกี่ยวกับการชุมนุมประท้วง หลังเจ้าหน้าที่รัฐฮ่องกงประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สโลแกนบางอย่างที่ใช้ในการประท้วงถือเป็นการแสดงออกถึงการแบ่งแยกดินแดนที่รัฐบาลสั่งห้าม ยกตัวอย่างเช่น สำนักข่าว RTHK ซึ่งได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ เลิกใช้วลี Liberate Hong Kong หรือ “ปลดปล่อยฮ่องกงให้เป็นอิสระ” ในการทวีตข่าวและคงไว้แค่ตัวอักษร L ที่ตามมาด้วยดอกจัน 1 แถว และแฮชแท็ก Hong Kong แทน เป็นต้น

ในส่วนของสื่อต่างชาติในฮ่องกง มาตรา 54 ของกฎหมายใหม่นี้ ระบุว่า ทางการต้อง “เพิ่มระดับการจัดการ” สำนักสื่อต่างชาติ องค์กรที่ไม่ใช่ของรัฐ และกลุ่มงานสากลอื่นๆ ซึ่งยังไม่มีใครสรุปได้อย่างแน่ชัดว่า รัฐบาลจีนต้องการทำอย่างไรแน่ๆ แต่เป็นที่เข้าใจกันว่า จะมีการจับตาดูและการเซนเซอร์อย่างมากจากรัฐจากนี้ไป ขณะที่การยื่นเรื่องขอวีซ่าของผู้สื่อข่าวต่างชาติเพื่อมาทำงานในฮ่องกงก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่หลายฝ่ายยังไม่มั่นใจว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

สำหรับประชาชนทั่วไปในฮ่องกงนั้น ทางการได้เริ่มใช้อำนาจในการปราบปรามผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายใหม่ไปแล้ว โดยตำรวจฮ่องกงจับกุมชายวัย 23 ปีรายหนึ่งซึ่งถือป้ายที่มีข้อความ “Liberate Hong Kong, Revolution of Our Times” หรือ “ปลดปล่อยฮ่องกงให้เป็นอิสระ – การปฏิวัติแห่งช่วงชีวิตเรา” ขณะขี่มอเตอร์ไซด์พุ่งเข้าชนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนดูแลการประท้วงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บบางส่วน

หลังถูกจับกุมในข้อหาขับรถประมาทและเป็นอันตรายต่อผู้อื่นในเบื้องต้น ศาลฮ่องกงสั่งฟ้องชายผู้นี้ในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยข้อหาพยายามแบ่งแยกดินแดนและทำการก่อการร้ายภายใต้อำนาจของกฎหมายใหม่นี้แล้ว