อดีตผู้บริหาร 'ทวิตเตอร์' เผยผู้ใช้เสี่ยงถูกเจาะล้วงข้อมูลส่วนตัว

FILE - The Twitter application is seen on a digital device, April 25, 2022, in San Diego.

อดีตผู้บริหารทวิตเตอร์รายหนึ่งซึ่งถูกไล่ออกไม่นานนี้ กล่าวหาทวิตเตอร์ว่ามีช่องโหว่ที่ผู้ใช้เเพลตฟอร์มนี้ 238 ล้านคนในเเต่ละวันทั่วโลก อาจจะเจอความเสี่ยงถูกเจาะล้วงข้อมูลส่วนตัว

ผู้ที่ออกมาเปิดเผยครั้งนี้คือ เปียเตอร์ "มัดจ์" เเซตโก้ นักเจาะล้วงข้อมูลที่ถูกจ้างให้มาทำงานด้านความปลอดภัยของระบบที่ทวิตเตอร์โดยอดีตซีอีโอ เเจ๊ค ดอร์ซี แต่ต่อมา เเซตโก้โดนไล่ออกโดยซีอีโอคนปัจจุบัน ปารัก อะกราวาล

เเซตโก้กล่าวหาทวิตเตอร์ว่ามีแบบเเผนการทำงานที่ขาดประสิทธิภาพรุนเเรง ในการปกป้องผู้ใช้จากสแปมและแฮคเกอร์ การเปิดเผยนี้ถูกส่งไปยังหน่วยงานรัฐบาลอเมริกัน 3 แห่งซึ่งรวมถึงกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม

สื่อซีเอ็นเอ็นและวอชิงตันโพสต์เป็นผู้รายงานข่าวนี้รายเเรกจากการเปิดโปงของเเซตโก้ ในเอกสารความยาว 84 หน้า

ทวิตเตอร์บอกกับผู้สื่อข่าววีโอเอในเเถลงการณ์ว่า เเซตโก้ ถูกไล่ออกจากตำแหน่งบริหาร ที่ทวิตเตอร์ เมื่อเดือนมกราคมปีนี้ เนื่องจากปัญหาด้านผลงานและการทำหน้าที่หัวหน้า

Handout photo of Peiter Zatko

แถลงการณ์ของทวิตเตอร์บอกด้วยว่า คำกล่าวของเเซตโก้ ในเรื่องความเสี่ยงด้านความปลอดภัยนั้นเป็นเท็จ และขาดบริบทที่สำคัญ ทวิตเตอร์กล่าวต่อด้วยว่าอดีตผู้บริหารผู้นี้เลือกเวลาที่จะตกเป็นข่าว เพื่อฉวยโอกาสดึงความสนใจ และสร้างความเสียหายต่อบริษัท ผู้ใช้และผู้ถือหุ้น

บริษัทกล่าวเเย้งว่า "เรื่องความปลอดภัยเเละเป็นความส่วนตัวของผู้ใช้เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆของบริษัทมานาน และจะเป็นเช่นนั้นต่อไป"

เเซตโก้กล่าวหาทวิตเตอร์ว่าละเมิดเงื่อนไขของความตกลงกับคณะกรรมการด้านการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หรือ FTC (Federal Trade Commission)เมื่อ 2011 จากการที่ทวิตเตอร์อ้างอย่างผิด ๆ ว่ามีแผนป้องกันความปลอดภัยของผู้ใช้ เเซตโก้ระบุว่าซอฟต์แวร์ของทวิตเตอร์ล้าสมัยและมีจุดบกพร่อง รวมทั้งผู้บริหารยังปกปิดคณะกรรมการบริษัทเรื่องข้อมูลการถูกเจาะล้วงระบบ

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาทวิตเตอร์ตกเป็นข่าวใหญ่ จากการต่อสู้ทางกฎหมายกับ อิลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอเมริกัน ที่เคยกล่าวว่าจะซื้อบริษัททวิตเตอร์ที่ราคา 4 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์ แต่ต่อมาถอนตัวจากแผนซื้อกิจการดังกล่าว ซึ่งมัสก์กล่าวว่าทวิตเตอร์ปิดบังข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ที่เป็นบ็อต

"ผมรู้สึกว่าผมมีภาระด้านจริยธรรม มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ดำนินการเช่นนี้" เเซตโก้กล่าวกับวอชิงตันโพสต์ ถึงการนำข้อมูลเกี่ยวกับทวิตเตอร์ออกมาเปิดเผย

ภายใต้กฎหมายเรื่องการนำข้อมูลภายในออกมาเปิดเผยเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เเซตโก้ได้รับความปกป้องทางกฎหมาย จากการถูกแก้เเค้น และเขาอาจจะได้เงินเป็นรางวัลหากการเปิดเผยนำไปสู่การลงโทษผู้กระทำผิดโดยหน่วยงานของรัฐ

ขณะนี้นักการเมืองในสภาสหรัฐฯ ซึ่งมีทั้งจากรีพับลิกันและเดโมเเครตแสดงความกังวลเกี่ยวกับทวิตเตอร์

เเซตโก้เปิดเผยด้วยว่าประเทศอินเดียบังคับให้ทวิตเตอร์จ้างคนจากรัฐบาลอินเดียมาทำงานที่บริษัท เพื่อที่ว่าจะได้เข้าถึงข้อมูลที่อ่อนไหวของผู้ใช้ เพราะระบบของทวิตเตอร์มีจุดบกพร่อง

วีโอเอติดต่อไปยังสถานทูตอินเดียเพื่อขอความคิดเห็นเเต่ไม่มีการตอบรับกลับมาเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าว

  • ที่มา: วีโอเอ