ผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์

ผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพใหม่ ของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยรัสที นครชิคาโก้ ซึ่งศึกษากลุ่ม ตัวอย่างจากนักบวชและแม่ชีนิกายโรมันคาทอลิกราว 1,000 คนนาน 12 ปี บ่งชี้ว่าผู้มีวินัย รักษาระ เบียบ และมีนิสัยเอางานเอาการ มีแนวโน้มว่าจะเป็นอัลไซเมอร์สน้อยกว่าคนไร้ระเบียบ

นักวิจัยได้ข้อสรุปเรื่องนี้จากการศึกษาสมองของนักบวชและแม่ชีในกลุ่มตัวอย่าง ที่เสียชีวิตลงแล้ว และได้พบเนื้อเยื่อในสมอง ซึ่งเข้าข่ายหรือเป็นเครื่องบ่งบอกถึงอาการโรคอัลไซเมอร์ ถึงแม้ว่าอาการ ดังกล่าวนี้ยังไม่ปรากฏออกมาอย่างเด่นชัดขณะที่มีชีวิตอยู่ก็ตาม นักวิจัยได้ชั่งน้ำหนักเพื่อตัดปัจจัย เสี่ยงด้านอื่นๆ อย่างเช่นการสูบบุหรี่ การไม่ค่อยออกกำลังกาย และการเก็บตัวไม่คบหาสมาคม กับคนอื่นออกไปแล้ว และตั้งข้อสันนิษฐานว่าการเป็นคนรักวินัย เป็นระเบียบ มีเป้าหมายในชีวิต คิดจริงทำจริงและไม่ลดละความพยายามนั้น เป็นคุณสมบัติที่ทำให้คนๆ นั้นมีโอกาสและความ เสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์น้อยกว่าคนที่ไม่เอาถ่าน ไร้เป้าหมายในชีวิต หรือไม่สนใจ ไม่ต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต

นักวิจัยได้ข้อสรุปดังกล่าวโดยศึกษาจากคำถามที่กลุ่มตัวอย่างวัดประเมินตัวเอง ว่าจริงมากน้อย แค่ไหน คำถามเหล่านี้มีเช่นว่า ข้าพเจ้าทำงานอย่างหนักเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ข้าพเจ้าพยายามทำให้ได้ผลดีที่สุดในทุกอย่างที่ทำ ข้าพเจ้ารักษาสิ่งต่างๆ เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบ ร้อยและสะอาดอยู่เสมอ หรือข้าพเจ้าทำได้ดีในการควบคุมตัวเองเพื่อให้งานเสร็จทันตามเวลา เป็นต้น

จากข้อมูลเหล่านี้เพื่อบ่งชี้บุคลิกลักษณะนิสัย ประกอบกับการศึกษาเนื้อเยื่อในสมองของกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเสียชีวิตลงแล้ว นักวิจัยจึงสรุปว่าคนที่มีระเบียบวินัย เอาการเอางาน และจริงจังในชีวิตนั้น จะมี ความเสี่ยงของอัลไซเมอร์น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่เอาถ่านราว 54 เปอร์เซนต์ อย่างไรก็ตามนักวิจัยคนอื่นๆ เตือนว่ายังไม่ควรด่วนสรุปเรื่องนี้ ว่าจะใช้ได้กับคนทั่วไปในสังคม และถึงแม้ในขณะนี้กลุ่มนักวิจัยของ ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยรัชช์ จะยังหาคำตอบอย่างชัดเจนไม่ได้ว่า ทำไมคนที่มีลักษณะนิสัย เป็นระเบียบ และเอาการเอางานจะมีความเสี่ยงของอัลไซเมอร์น้อยกว่าก็ตาม แต่ข้อสันนิษฐานก็คือว่า คนกลุ่มนี้มีความยืดหยุ่นในการปรับตัว ประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่า และสามารถรับมือกับ ปัญหายากลำบากในชีวิตได้ดีกว่า

นักวิจัยบอกด้วยว่า ดูเหมือนว่าผลการศึกษาครั้งนี้ จะช่วยเสริมความรู้ที่มีอยู่ในแง่ที่ว่า บุคลิกภาพ ลักษณะการใช้ชีวิต ลักษณะวิธีการคิด และพฤติกรรมของเรา รวมทั้งสุขภาพใจ สุขภาพกายนั้น ล้วนแต่มีส่วนกำหนดความเสี่ยงของเราเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ทั้งสิ้น